เงินเย็น คืออะไร ไม่มีเงินเย็นสามารถลงทุนได้หรือไม่ ?

ใคร ๆ ก็บอกว่าในยุคนี้ควรมีเงินเย็นเก็บไว้ แล้วเจ้าเงินเย็นนั้นคืออะไร มีความสำคัญอย่างไร หากอยากลงทุนจำเป็นที่จะต้องมีเงินเย็นหรือไม่ วันนี้ FINN มีคำตอบให้ ลองอ่านทำความเข้าใจดูกันได้เลย

เงินเย็น คืออะไร ?

KTC ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเงินเย็นว่า เงินเย็น คือ เงินส่วนที่แยกออกจากการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ซึ่งสามารถเก็บไว้โดยยังไม่มีแผนจะนำไปใช้ในระยะสั้น เงินส่วนนี้เหมาะสำหรับการนำไปลงทุนเพื่อเป้าหมายในอนาคต เช่น การเตรียมตัวเพื่อการเกษียณ เพราะจะช่วยให้นักลงทุนสามารถวางแผนการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงขึ้นได้ โดยไม่ต้องกังวลถึงการขาดแคลนเงินในระยะสั้นนั่นเอง

เงินร้อน คืออะไร ?

เงินร้อน คือ เงินที่มีความจำเป็นต้องใช้จ่ายในระยะเวลาอันสั้น เช่น เงินที่ใช้ในการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าสัญญาณอินเทอร์เน็ต รวมไปถึงเงินที่ต้องใช้ในการผ่อนชำระหนี้สิน เช่น ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ เป็นต้น กล่าวคือเงินเหล่านี้มักต้องใช้เพื่อรักษาความต่อเนื่องในชีวิตประจำวัน และไม่สามารถนำมาลงทุนในลักษณะที่มีความเสี่ยงได้ เนื่องจากอาจมีความจำเป็นที่จะต้องใช้ทันที

เราจำเป็นต้องมีเงินเย็นหรือไม่ ?

การมีเงินเย็นถือเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับการวางแผนทางการเงินที่ดี และยั่งยืน โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว เพราะเงินเย็นถือเป็นเงินสำรองที่เราสามารถเก็บไว้ใช้จ่ายในเวลาฉุกเฉิน อีกทั้งยังช่วยให้นักลงทุนสามารถลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงได้ เช่น หุ้น หรืออสังหาริมทรัพย์ โดยไม่ต้องกังวลถึงการขาดแคลนเงินที่ต้องใช้ในชีวิตประจำวัน หรือการต้องขายสินทรัพย์ออกมาเพื่อใช้จ่ายในกรณีฉุกเฉิน 

นอกจากนี้การมีเงินเย็นยังช่วยให้เราสามารถเตรียมตัวสำหรับการเกษียณ หรือเป้าหมายทางการเงินในอนาคตได้อย่างมั่นคง เพราะเงินเย็นจะไม่ถูกนำมาใช้ในระยะสั้น จึงสามารถให้ผลตอบแทนจากการลงทุนที่เติบโตในระยะยาวได้อย่างเต็มที่

เงินเย็นสำคัญต่อการลงทุนอย่างไร ?

เงินเย็นมีความสำคัญต่อการลงทุนอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นเงินที่สามารถนำไปลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ โดยไม่ต้องกังวลถึงการใช้จ่ายในระยะสั้น ซึ่งทำให้นักลงทุนสามารถเลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง หรือสินทรัพย์ที่ต้องใช้เวลาในการเติบโต เช่น หุ้น ตราสารหนี้ หรืออสังหาริมทรัพย์ โดยไม่ต้องเผชิญกับความจำเป็นในการถอนเงินออกมาใช้ในกรณีฉุกเฉิน 

นอกจากนี้เงินเย็นยังช่วยให้นักลงทุนสามารถลงทุนในระยะยาวเพื่อบรรลุเป้าหมายทางการเงินที่มีความยั่งยืน เช่น การเตรียมตัวสำหรับการเกษียณ หรือการสร้างความมั่งคั่งในอนาคต โดยการใช้เงินเย็นในการลงทุนจะช่วยให้สามารถรับมือกับความผันผวนของตลาดได้ดีขึ้น และลดแรงกดดันในการตัดสินใจลงทุนในช่วงที่ตลาดไม่ดีนั่นเอง

ไม่มีเงินเย็น ลงทุนได้ไหม ?

การลงทุนโดยไม่มีเงินเย็นสามารถทำได้ แต่อาจเป็นการตัดสินใจที่มีความเสี่ยงสูงมาก เนื่องจากการลงทุนต้องการความพร้อมทางการเงินที่สามารถรองรับความผันผวนในตลาดได้ หากไม่มีเงินเย็น นักลงทุนอาจต้องใช้เงินที่จำเป็นในการใช้ชีวิตประจำวัน หรือจ่ายหนี้สินมาใช้ในการลงทุน ซึ่งจะทำให้ไม่สามารถรับมือกับความเสี่ยงได้ดี หรืออาจต้องขายสินทรัพย์ที่ลงทุนไปในระยะสั้นหากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน ทำให้เสียโอกาสในการได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนในระยะยาวได้ 

ข้อดีของการมีเงินเย็น

• ช่วยให้มีความมั่นคงทางการเงิน : การมีเงินเย็นช่วยให้สามารถรับมือกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดได้ เช่น ภาวะฉุกเฉิน หรือค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดฝันโดยไม่กระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน
• สามารถลงทุนได้โดยไม่ต้องกังวล : การมีเงินเย็นทำให้สามารถลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง หรือมีระยะเวลาการลงทุนยาวนานได้โดยไม่ต้องกังวลถึงการใช้จ่ายในระยะสั้น หรือการถอนเงินมาใช้ยามฉุกเฉิน
• ลดความเครียดจากการลงทุน : เมื่อมีเงินเย็นนักลงทุนสามารถลงทุนได้อย่างสบายใจโดยไม่ต้องเร่งรีบขายสินทรัพย์เมื่อเกิดความผันผวนในตลาด จึงสามารถรับมือกับความเสี่ยงได้ดีขึ้น
• มีเวลาในการศึกษา และวางแผนการลงทุน : การมีเงินเย็นทำให้สามารถทุ่มเทเวลาในการศึกษา และวิเคราะห์การลงทุนโดยไม่ต้องห่วงเรื่องการขาดสภาพคล่องในระยะสั้น
• เตรียมความพร้อมในอนาคตได้ : การมีเงินเย็นช่วยให้สามารถวางแผนการลงทุนเพื่อเป้าหมายระยะยาว เช่น การเกษียณ การศึกษาของบุตร หรือการสร้างความมั่งคั่งในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• เพิ่มโอกาสในการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูง : เมื่อมีเงินเย็น นักลงทุนสามารถเลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่มีผลตอบแทนสูงกว่า และมีระยะเวลาการลงทุนที่ยาวนานได้
• ช่วยสร้างวินัยการออม : การตั้งเป้าหมายเก็บออมเงินเพื่อเป็นเงินเย็นช่วยสร้างนิสัยการออมที่มีวินัย ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว

มีเงินเย็น ทําอะไรดี ?

• ลงทุนในหุ้น : การลงทุนในหุ้นช่วยให้เงินเย็นสามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็วในระยะยาว เนื่องจากหุ้นมีโอกาสให้ผลตอบแทนสูง แม้จะมีความเสี่ยงค่อนข้างมากก็ตาม
• ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ : การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ เช่น การซื้อบ้าน หรือที่ดินสามารถสร้างความมั่งคั่งในระยะยาว โดยมีโอกาสได้รับผลตอบแทนจากการเพิ่มมูลค่าของทรัพย์สิน
• ซื้อกองทุนรวม : การลงทุนในกองทุนรวมเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับนักลงทุนที่ต้องการกระจายความเสี่ยง เพราะกองทุนรวมช่วยให้สามารถลงทุนในหลายสินทรัพย์พร้อมกันได้
• ลงทุนในตราสารหนี้ : หากต้องการการลงทุนที่ความเสี่ยงต่ำกว่าหุ้น สามารถลงทุนในตราสารหนี้ เช่น พันธบัตร หรือหุ้นกู้ ซึ่งให้ผลตอบแทนที่มั่นคง และมีความเสี่ยงต่ำ
• วางแผนการเกษียณ : การนำเงินเย็นมาสร้างแผนการเกษียณที่ดี เช่น ลงทุนในกองทุนเกษียณ หรือผลิตภัณฑ์การเงินเพื่อการเกษียณ จะช่วยให้มีเงินสำรองในอนาคต
• เก็บเป็นเงินสำรองฉุกเฉิน : สามารถใช้เงินเย็นในการสร้างกองทุนสำรองฉุกเฉิน เพื่อใช้ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เช่น อุบัติเหตุไม่คาดฝัน ตกงาน

ทำอย่างไรให้มีเงินเย็น ?

การที่จะมีเงินเย็นได้นั้นจำเป็นต้องมีการวางแผนการเงินอย่างรอบคอบ และมีวินัยในการออม โดยเริ่มต้นจากการจัดสรรรายได้ให้เหมาะสม เช่น การแบ่งเงินออกเป็นส่วน ๆ สำหรับใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ส่วนที่สามารถเก็บไว้ลงทุน และส่วนที่เก็บไว้เป็นเงินเย็น 

นอกจากนี้ควรตั้งเป้าหมายทางการเงินที่ชัดเจน และตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นออก เพื่อลดภาระทางการเงินเพื่อที่จะได้มีเงินเหลือสำหรับการเก็บออม

สำหรับใครที่ไม่มีเงินเย็นเก็บสะสมเอาไว้ และมีบิลฉุกเฉินต้องจ่ายก็ไม่ต้องกังวลใจ สามารถเบิกเงินเดือนล่วงหน้าของตัวเอง กับ FINN มาใช้ก่อนได้ https://go.finn-app.com/finnis0424 สมัครง่าย ดำเนินการสะดวกสบาย รวดเร็วทันใจ จะฉุกเฉินแค่ไหนก็ไร้กังวล