ต้องมีเงินเท่าไหร่ก่อนอายุ 35 จึงจะเกษียณได้ตอนอายุ 50 ปี ?

ถ้าเลือกได้ ไม่ว่าใครก็คงอยากเกษียณไว ๆ มีเงินใช้ในยามบั้นปลายไม่ต้องทำงาน แต่แน่นอนว่าการจะทำเช่นนั้นได้ก็จะต้องมีการวางแผนเตรียมตัวให้พร้อม โดยเฉพาะในเรื่องของค่าใช้จ่าย เงินเกษียณที่จะต้องมีสำรองไว้ใช้ แล้วรู้หรือไม่ว่าหากอยากเกษียณอายุตอนอายุ 50 ปี ภายในอายุ 35 ปี เราจะต้องมีเงินเก็บเท่าไหร่ FINN ช่วยนำวิธีการคำนวณมาแจกแจงให้ เผื่อเพื่อน ๆ คนไหนอยากหยุดทำงาน พักผ่อนไวจะได้นำไปตั้งเป้าหมายในการเก็บเงินกัน

เกษียณ คืออะไร ?

การเกษียณ หมายถึง ช่วงเวลาของชีวิตที่บุคคลหยุดทำงาน หรือยุติการประกอบอาชีพอย่างเป็นทางการ โดยทั่วไปมักเกิดขึ้นเมื่อมีอายุถึงเกณฑ์ที่กำหนดตามกฎหมาย หรือข้อกำหนดขององค์กร เช่น อายุ 60 ปี ซึ่งเป็นอายุเกษียณมาตรฐานในประเทศไทย การเกษียณอายุเป็นช่วงเวลาที่เราจะได้พักผ่อนจากการทำงาน ใช้ชีวิตอย่างอิสระ และสามารถจัดการเวลาเพื่อทำกิจกรรมที่ชื่นชอบ ดูแลสุขภาพ และครอบครัว ซึ่งแน่นอนว่าเพื่อให้ทำสิ่งที่อยากทำในช่วงที่หยุดทำงานได้ก็จำเป็นที่จะต้องมีการเตรียมตัวอย่างเหมาะสม เช่น การวางแผนการเงิน การสร้างรายได้เสริม หรือการออมเงินล่วงหน้า ที่ถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้การเกษียณเป็นช่วงเวลาที่มีความสุข และมีความมั่นคงทางการเงิน

ทุกคนจำเป็นต้องเกษียณหรือไม่ ?

การเกษียณไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนจำเป็นต้องทำเสมอไป เนื่องจากความเหมาะสมในการเลือกว่าจะทำงานต่อหรือไม่ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น สุขภาพ ความพร้อมทางการเงิน ความชื่นชอบในการทำงาน และรูปแบบการใช้ชีวิตของแต่ละบุคคล เพราะบางคนอาจเลือกที่จะทำงานต่อแม้จะถึงวัย เพื่อคงความกระฉับกระเฉงให้กับตัวเอง ไม่ชอบอยู่เฉย ๆ รู้สึกว่าการทำงานทำให้ตัวเองมีคุณค่า หรือชอบที่จะสร้างรายได้เพิ่มเติมให้ตัวเองอยู่เสมอ 

ในขณะที่บางคนอาจตัดสินใจเกษียณเพื่อพักผ่อน และใช้เวลาอยู่กับครอบครัว ดังนั้นการวางแผน และประเมินความพร้อมล่วงหน้าจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้การตัดสินใจเหมาะสมกับเป้าหมายชีวิต เตรียมพร้อมได้อย่างทันท่วงที และเหมาะสมกับสถานการณ์ส่วนตัวของแต่ละคน

สิ่งสำคัญในวัยเกษียณ มีอะไรบ้าง ?

• เงินออม และรายได้ที่มั่นคง : การมีเงินออมเพียงพอสำหรับการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในวัยเกษียณ อีกทั้งยังควรวางแผนล่วงหน้าเพื่อให้มีรายได้ที่มั่นคง เช่น เงินบำนาญ เงินลงทุน หรือเงินจากทรัพย์สินที่สร้างรายได้ต่อยอดในอนาคตได้
• สุขภาพร่างกาย และจิตใจ : การดูแลสุขภาพเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม ควรออกกำลังกาย รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้สามารถใช้ชีวิตในวัยเกษียณได้อย่างมีคุณภาพ
• ความสัมพันธ์ และการเข้าสังคม : การมีความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว และชุมชนช่วยลดความรู้สึกเหงา และสร้างความสุขในชีวิต ควรเข้าร่วมกิจกรรมที่ส่งเสริมการมีส่วนร่วมทางสังคมบ้าง ไม่เก็บตัวอยู่ในบ้านเพียงอย่างเดียว
• การวางแผนการใช้เวลาให้ตัวเอง : ควรมีแผนการใช้เวลาที่สร้างสรรค์ เช่น การทำงานอดิเรก การท่องเที่ยว หรือการทำงานอาสาสมัคร เพื่อเติมเต็มชีวิตให้มีความหมาย
• การจัดการความเสี่ยง : ควรมีประกันสุขภาพ และประกันชีวิตที่ครอบคลุม รวมถึงแผนสำรองฉุกเฉินในกรณีที่มีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น
• การเตรียมตัวทางจิตใจ : การเปลี่ยนผ่านจากการทำงานสู่การเกษียณอาจทำให้เกิดความรู้สึกว่างเปล่า หรือไม่มั่นคง ควรปรับตัว และหากิจกรรมที่ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจรวมถึงความสุขในชีวิต
• ตั้งเป้าหมาย และความฝันใหม่ ๆ : วัยเกษียณไม่ได้หมายถึงการหยุดทำสิ่งใหม่ ควรตั้งเป้าหมาย หรือความฝันใหม่ ๆ ที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจ และทำให้ชีวิตมีพลังมากขึ้น

การวางแผนเกษียณสำคัญอย่างไร ?

การวางแผนเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้เรามีความมั่นคงทางการเงิน และคุณภาพชีวิตที่ดีในช่วงบั้นปลาย เพราะการวางแผนล่วงหน้าจะช่วยให้เราสามารถประเมินความต้องการทางการเงินสำหรับการดำรงชีวิตหลังเกษียณ ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายจำเป็น ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ หรือค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมที่ต้องการทำในวัยเกษียณ 

นอกจากนี้การวางแผนยังช่วยลดความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ เช่น ภาวะเงินเฟ้อ หรือการเปลี่ยนแปลงในระบบสวัสดิการ ช่วยให้เราสามารถออมเงิน ลงทุนต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้สามารถใช้ชีวิตในวัยเกษียณได้อย่างสุขสบาย และไม่ต้องพึ่งพาผู้อื่น

เกษียณก่อนวัยได้หรือไม่ ?

การเกษียณก่อนวัยเป็นสิ่งที่สามารถทำได้ หากมีการวางแผนการเงิน และการดำเนินชีวิตอย่างรอบคอบ โดยส่วนใหญ่ผู้ที่สามารถเกษียณก่อนวัยได้จะต้องมีเงินออม และการลงทุนที่เพียงพอสำหรับการใช้ชีวิตในระยะยาว รวมถึงการบริหารค่าใช้จ่ายให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ตามที่ธนาคารกรุงศรีให้ข้อมูลการเกษียณว่ายิ่งอยากเกษียณไวมากเท่าไหร่ ยิ่งต้องเตรียมเงินเกษียณให้ไวมากเท่านั้น 

อย่างไรก็ตามการเกษียณอายุก่อนวัยอาจมีความเสี่ยงที่ต้องระมัดระวังอยู่หลายจุดด้วยกัน เช่น การจัดการกับค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ การรับมือกับความเปลี่ยนแปลงในระบบรายได้ และการวางแผนกิจกรรมเพื่อให้ชีวิตมีความหมาย ดังนั้นการเกษียณอายุก่อนวัยจึงต้องอาศัยการวางแผนที่รอบคอบ และการประเมินความพร้อมในทุกด้านของชีวิต

อยากเกษียณตอน 50 ปี ก่อน 35 ต้องมีเงินเก็บเท่าไหร่ ?

หากต้องการเกษียณตอนอายุ 50 ปี ต้องเริ่มวางแผนการเงินตั้งแต่อายุยังน้อย ทั้งนี้เป้าหมายการเก็บเงินจะขึ้นอยู่กับค่าใช้จ่ายรายเดือนที่ต้องการใช้หลังสิ้นสุดการทำงานโดยจะสามารถคำนวณคร่าว ๆ ได้ดังนี้

• ประเมินค่าใช้จ่ายรายเดือน เช่น ต้องการใช้เงินเดือนละ 20,000 บาท
• คำนวณเงินที่ต้องมีโดยใช้สูตรง่าย ๆ คือ ค่าใช้จ่ายรายเดือน × 12 × จำนวนปีที่ต้องการใช้เงิน

ตัวอย่าง: หากต้องการใช้เงิน 20,000 บาทต่อเดือน และวางแผนเกษียณไปอีก 30 ปี (50-80 ปี) เงินที่ต้องมี = 20,000 × 12 × 30 = 7.2 ล้านบาท

แล้วภายในอายุ 35 ปี ต้องมีเงินเก็บเท่าไหร่ ?

หากเริ่มออมตั้งแต่อายุ 25 ปี เราจะมีเวลา 10 ปีในการเก็บเงิน ดังนั้นจึงควรตั้งเป้าเก็บให้ได้ประมาณครึ่งหนึ่งของเป้าหมาย เช่น 3.6 ล้านบาท และนำไปลงทุนเพื่อให้เงินเติบโตต่อ โดยจะมีเคล็ดลับในการเก็บเงินง่าย ๆ คือ 

• ออมเงินอย่างน้อย 20-30% ของรายได้ต่อเดือน
• ลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าการออมปกติ เช่น กองทุนรวม หรือหุ้น
• ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น เพื่อเพิ่มเงินออม

สิ่งที่คนอยากเกษียณก่อนวัยต้องให้ความสำคัญ

• การวางแผนการเงินระยะยาว
• การลงทุนที่เหมาะสม
• การบริหารความเสี่ยงทางการเงิน
• การสร้างรายได้เสริม
• การควบคุมค่าใช้จ่าย
• การเตรียมตัวด้านสุขภาพ
• การตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน
• การศึกษาความรู้ทางการเงิน

เพียงเท่านี้เป้าหมายการเกษียณอายุก่อนวัยก็จะไม่ใช่เรื่องที่ไกลตัวอีกต่อไป หากต้องการที่ปรึกษาทางด้านการเงิน สามารถปรึกษา FINN ได้ https://go.finn-app.com/finnis0424 พร้อมให้คำแนะนำเกี่ยวกับการวางแผนการเงินในอนาคตเพื่อความอุ่นใจ วางแผนตั้งแต่วันนี้วัยเกษียณจะได้สบาย ไร้กังวล