ประหยัดไม่ทำให้รวยเสมอไป หากขาดการวางแผนการเงินระยะยาว

หลายคนเชื่อว่าการ “ประหยัด” คือกุญแจสำคัญในการสร้างความมั่งคั่ง เพราะช่วยลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น และทำให้มีเงินเหลือเก็บมากขึ้นในแต่ละเดือน ซึ่งแม้ว่าการประหยัดจะเป็นนิสัยทางการเงินที่ดี และควรปลูกฝัง แต่ในความเป็นจริงแล้ว “ประหยัดอย่างเดียวไม่ได้ทำให้รวยเสมอไป” หากไม่มาพร้อมกับ การวางแผนการเงินที่รอบคอบ โดยเฉพาะในยุคที่ค่าครองชีพสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และอัตราเงินเฟ้อทำให้เงินในอนาคตมีค่าลดลง

การประหยัดช่วยให้เราควบคุมการใช้จ่ายได้ก็จริง แต่ถ้าไม่มีการจัดสรรเงินให้เติบโต เช่น การออมอย่างมีเป้าหมาย การลงทุน หรือการวางแผนเกษียณ เงินที่ประหยัดได้อาจไม่เพียงพอต่อการใช้ชีวิตในระยะยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีเหตุฉุกเฉิน เช่น ค่ารักษาพยาบาล การตกงาน หรือเหตุการณ์ที่กระทบการเงินอย่างไม่คาดคิด การพึ่งพาการประหยัดเพียงอย่างเดียวจึงไม่ใช่คำตอบของความมั่งคั่งที่แท้จริง

ในบทความนี้ FINN จะพาทุกคนไปทำความเข้าใจว่า ทำไม “การประหยัด” จึงไม่เพียงพอหากปราศจาก การวางแผนการเงินระยะยาว พร้อมแนะนำแนวทางจัดสรรเงินให้งอกเงยอย่างเป็นระบบ เพื่อให้สามารถสร้างความมั่นคงทางการเงินได้อย่างยั่งยืนในอนาคต

ประหยัด คืออะไร ?

ประหยัด คือ พฤติกรรมการใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง โดยมุ่งลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น เพื่อให้มีเงินเหลือสำหรับการออม หรือเพื่อรองรับค่าใช้จ่ายที่สำคัญกว่าในอนาคต แนวคิดนี้เป็นพื้นฐานสำคัญของการควบคุมเงิน และสร้างวินัยทางการเงิน เพราะช่วยให้เราจัดการรายได้ที่มีอยู่อย่างจำกัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ประหยัดทำให้รวยจริงไหม ?

​​ประหยัดเพียงอย่างเดียวอาจไม่ทำให้รวยเสมอไป หากไม่มีการวางแผนการเงินที่ชัดเจนประกอบด้วย เพราะแม้ว่าการประหยัดจะทำให้เรามีเงินเหลือมากขึ้นในแต่ละเดือน แต่ถ้าเงินเหล่านั้นไม่ถูกนำไปออมอย่างเป็นระบบ ไม่ถูกทำให้เติบโตผ่านการลงทุน หรือไม่มีเป้าหมายทางการเงินรองรับ เงินก็อาจไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายสำคัญในอนาคต โดยเฉพาะในยุคที่เงินเฟ้อสูง และค่าครองชีพเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

ประหยัดอย่างเดียว ไม่วางแผนการเงินระยะยาวได้หรือไม่ ?

การประหยัดสามารถช่วยให้มีเงินเหลือใช้ในแต่ละเดือนได้จริง แต่ไม่เพียงพอต่อการสร้างความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว หากขาดการวางแผนการเงิน ที่เหมาะสมรองรับ เพราะการประหยัดคือการลดรายจ่ายในปัจจุบัน แต่ไม่ได้ช่วยให้เงินเติบโต หรือช่วยให้รับมือกับเหตุการณ์สำคัญในอนาคต และอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นจะทำให้เงินที่ประหยัดไว้มีค่าลดลง หากไม่มีการนำเงินไปออมหรือลงทุนเพื่อเพิ่มมูลค่า เงินเก็บอาจไม่เพียงพอต่อเป้าหมายสำคัญในอนาคต

นอกจากนี้การพึ่งพาการประหยัดเพียงอย่างเดียว ทำให้ไม่มีระบบป้องกันความเสี่ยง เช่น เงินสำรองฉุกเฉิน ประกันสุขภาพ และแผนเกษียณ ส่งผลให้เวลามีเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้น จะต้องใช้เงินก้อนใหญ่ทันที และอาจทำให้เงินที่สะสมไว้ร่อยหรอ หรือหมดลงในเวลาอันสั้น การขาดแผนการเงินยังทำให้ไม่มองเห็นภาพรวมของชีวิตทางการเงิน ไม่รู้ค่าใช้จ่ายที่ควรลด เป้าหมายที่ควรตั้ง หรือวิธีทำให้เงินเพิ่มพูน

ดังนั้นสำหรับผู้ที่สงสัยว่าประหยัดอย่างเดียว แต่ไม่วางแผนการเงินระยะยาวได้ไหมนั้น คำตอบคือ “ไม่ได้” หากต้องการความมั่นคงในระยะยาว การประหยัดเป็นเพียงจุดเริ่มต้น แต่ต้องควบคู่ไปกับ การวางแผนการเงิน ที่ครอบคลุม เช่น การกำหนดเป้าหมาย ออมอย่างมีระบบ ลงทุนให้เหมาะสม และเตรียมแผนเกษียณ เก็บเงินเกษียณอย่างรอบคอบ การทำทั้งสองอย่างควบคู่กันเท่านั้น จึงจะช่วยให้คุณมีชีวิตที่มั่นคงและปราศจากความกังวลทางการเงินในอนาคต

อยากเริ่มวางแผนการเงินระยะยาว ต้องทำอย่างไร ?

การเริ่มต้นวางแผนการเงินระยะยาวไม่ใช่เรื่องยาก หากทำอย่างเป็นระบบ และทำควบคู่ไปกับนิสัยการ ประหยัดอดออม โดยผู้ที่ต้องการวางแผนการเงินระยะยาวสามารถเริ่มต้นได้ง่าย ๆ ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้

• กำหนดเป้าหมายทางการเงินให้ชัดเจน : เช่น เป้าหมายเกษียณ การซื้อบ้าน หรือการศึกษาบุตร เพื่อให้รู้ว่าต้องออมเท่าไร และภายในระยะเวลาใด
• จัดทำบัญชีรายรับ–รายจ่ายอย่างสม่ำเสมอ : ช่วยให้เห็นภาพการใช้เงินของตัวเองอย่างชัดเจน และรู้ว่าควรประหยัด หรือปรับลดส่วนไหนเพื่อนำเงินไปออม และลงทุน
• สร้างกองทุนสำรองฉุกเฉินอย่างน้อย 3–6 เดือน : เพื่อรองรับเหตุการณ์ไม่คาดคิด เช่น ตกงาน เจ็บป่วย หรือค่าใช้จ่ายกะทันหัน ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของความมั่นคงทางการเงิน
• ออมเงินอย่างมีวินัย และสม่ำเสมอ : แยกบัญชีออมออกจากบัญชีใช้จ่าย ใช้ระบบหักเงินอัตโนมัติ เพื่อให้การออมเป็นนิสัยที่ทำได้ต่อเนื่องในระยะยาว
• เริ่มต้นลงทุนเพื่อให้เงินเติบโต : เพราะแค่ประหยัด หรือออมอย่างเดียวไม่เพียงพอในระยะยาว ควรลงทุนในสินทรัพย์ที่เหมาะกับความเสี่ยง เช่น กองทุนรวม หุ้น หรือตราสารหนี้
• วางแผนเกษียณตั้งแต่อายุยังน้อย : ยิ่งเริ่มเร็ว เงินยิ่งเติบโตจากพลังของดอกเบี้ยทบต้น ทำให้ภาระการออมลดลง และมีโอกาสใช้ชีวิตหลังเกษียณอย่างมั่นคง
• วิเคราะห์ความเสี่ยง และเตรียมความคุ้มครองที่เหมาะสม : เช่น ประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุ หรือประกันชีวิต เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุไม่คาดฝันทำลายแผนทางการเงินทั้งหมด
• ทบทวนแผนการเงินเป็นประจำ : ตรวจสอบรายได้ รายจ่าย และผลตอบแทนการลงทุนอย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง เพื่อปรับให้เหมาะกับสถานการณ์ชีวิตที่เปลี่ยนไป

สรุปแล้วการวางแผนการเงินระยะยาวต้องทำควบคู่กับการ ประหยัดอดออม และไม่กดดันตัวเองจนเกินไป ทั้งนี้สำหรับใครที่มีบิลฉุกเฉินต้องจ่าย ไม่อยากไปขอยืมที่ไหน ก็สามารถเบิกเงินเดือนล่วงหน้าของตัวเอง กับ FINN มาใช้ก่อนได้ https://go.finn-app.com/finnis0424  ไม่ต้องเป็นหนี้ใคร ไม่มีดอกเบี้ยให้กังวล