Longevity สำคัญอย่างไร ส่งผลอย่างไรกับการวางแผนทางการเงิน ?
เทรนด์ใหม่ที่ได้รับความนิยม Longevity คืออะไร ? เทรนด์ Longevity ดีจริงหรือไม่ มีความเกี่ยวข้อง หรือความสำคัญในการวางแผนทางการเงินอย่างไร ? มาทำความเข้าใจกัน!
ในยุคปัจจุบันแนวคิดเรื่อง Longevity หรือ “อายุที่ยืนยาวขึ้น” กลายเป็นประเด็นสำคัญที่ทั่วโลกให้ความสนใจ ทั้งนี้เทรนด์ดังกล่าวไม่ใช่เพียงแค่การมีชีวิตที่ยาวนานเท่านั้น แต่ยังหมายถึงการมี “คุณภาพชีวิตที่ดี” ในช่วงบั้นปลายชีวิตด้วย
สืบเนื่องมาจากเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ก้าวหน้าขึ้นในปัจจุบัน เราสามารถดูแลสุขภาพให้ดีได้ง่ายยิ่งขึ้น และวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป ทำให้ผู้คนมีโอกาสใช้ชีวิตยืนยาวกว่ารุ่นก่อนอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งแม้จะเป็นเรื่องดี แต่ก็ส่งผลต่อการวางแผนชีวิตหลายด้าน โดยเฉพาะ “การวางแผนทางการเงิน” ที่ต้องปรับเปลี่ยนตามไป
ทั้งนี้หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า Longevity มีความเกี่ยวข้องอย่างลึกซึ้งกับการบริหารเงินในระยะยาวอย่างไร แต่เพราะเมื่อเราอายุยืนขึ้น ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เช่น ค่ารักษาพยาบาล ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน และเงินเพื่อใช้หลังเกษียณก็ต้องมีมากขึ้นตามไปด้วย การวางแผนการเงินแบบเดิมที่เคยใช้อาจไม่เพียงพอกับชีวิตที่ยืนยาวขึ้น
ดังนั้นในบทความนี้ FINN จึงจะพาทุกคนมาทำความเข้าใจว่า Longevity คืออะไร ทำไมถึงสำคัญ และส่งผลอย่างไรกับการวางแผนทางการเงินในระยะยาว

Longevity คืออะไร ?
Longevity คือ แนวคิดที่เกี่ยวข้องกับ “อายุขัยที่ยืนยาวขึ้นของมนุษย์” ทั้งในเชิงของจำนวนปีที่มีชีวิตอยู่ (Life Expectancy) และคุณภาพชีวิตที่ดีในระหว่างนั้น แนวคิดนี้ไม่ได้มองเพียงว่ามนุษย์มีอายุยืนขึ้นเท่านั้น แต่ยังเน้นการมีชีวิตที่แข็งแรง กระฉับกระเฉง และสามารถดูแลตัวเองได้แม้ในวัยสูงอายุ ปัจจุบัน Longevity กลายเป็นประเด็นสำคัญทั่วโลก เนื่องจากการพัฒนาทางการแพทย์ การเข้าถึงข้อมูลสุขภาพ และพฤติกรรมการดูแลตัวเองที่ดีขึ้น ทำให้คนมีแนวโน้มมีชีวิตยืนยาวกว่าในอดีตอย่างเห็นได้ชัด
ในมุมมองของสังคม และเศรษฐกิจ Longevity หมายถึง การที่ประชากรสูงอายุมีจำนวนเพิ่มขึ้น ส่งผลต่อรูปแบบการใช้ชีวิต นโยบายรัฐ ระบบสวัสดิการ และสำคัญที่สุดคือ “รูปแบบการวางแผนทางการเงิน” ของประชาชน เพราะการมีชีวิตที่ยืนยาวขึ้นต้องการเงินมากขึ้นตามไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายประจำวัน ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ หรือเงินที่ต้องใช้หลังเกษียณเป็นระยะเวลานานขึ้น
ดังนั้น Longevity จึงไม่ใช่เพียงแนวโน้มด้านสุขภาพ แต่เป็นสัญญาณเตือนให้ทุกคนเริ่มวางแผนอนาคตตั้งแต่วันนี้ เพื่อให้ชีวิตในวัยสูงอายุสามารถดำเนินไปได้อย่างมั่นคง มีคุณภาพ และไม่เป็นภาระต่อตนเอง หรือคนรอบข้างในอนาคต

เทรนด์ Longevity ดีจริงหรือไม่ ?
เทรนด์ Longevity หรือแนวโน้มที่ผู้คนมีอายุยืนยาวขึ้นถือเป็น “ดาบสองคม” ที่มีทั้งข้อดี และความท้าทาย แน่นอนว่าการมีชีวิตที่ยาวขึ้นย่อมเป็นสิ่งที่หลายคนปรารถนา เพราะหมายถึงโอกาสในการใช้ชีวิต ทำงานท่ีรัก ท่องเที่ยว หรือใช้เวลากับครอบครัวนานขึ้น อีกทั้งเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ก้าวหน้า และความรู้ด้านโภชนาการที่ดีขึ้น ยังช่วยให้ผู้สูงวัยมีสุขภาพที่แข็งแรง และคุณภาพชีวิตที่ดีแม้อายุจะมากขึ้นก็ตาม ทำให้ Longevity เป็นสัญญาณบวกในด้านสุขภาพ และความก้าวหน้าของมนุษยชาติ
อย่างไรก็ตามเทรนด์ Longevity ยังมาพร้อมความท้าทายด้านการเงินที่ต้องเตรียมพร้อมมากขึ้น เนื่องจากเมื่ออายุยืนยาวขึ้น ค่าใช้จ่ายก็เพิ่มขึ้นตาม เช่น ค่ารักษาพยาบาล ค่าดูแลสุขภาพ ค่าครองชีพที่สูงขึ้น รวมถึงเงินที่ต้องใช้หลังเกษียณอาจต้องเพียงพอสำหรับระยะเวลา 20–30 ปี หรือมากกว่า หากไม่มีการวางแผนการเงินที่ดี ชีวิตยามเกษียณอาจเผชิญความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง และอาจเป็นภาระแก่ครอบครัวโดยไม่ตั้งใจ
ดังนั้นเทรนด์ Longevity จึงถือว่ามีทั้งข้อดี และข้อควรระวัง ทั้งนี้หากเราเตรียมพร้อมตั้งแต่วันนี้ ไม่ว่าจะเป็นการออม การลงทุน การป้องกันความเสี่ยงด้านสุขภาพ หรือการวางแผนเงินเกษียณอย่างเป็นระบบก็จะสามารถใช้ชีวิตแบบ Longevity ได้อย่างมั่นคง และมีความสุขนั่นเอง

Longevity เกี่ยวข้องอย่างไรกับการวางแผนการเงิน ?
เทรนด์ Longevity หรืออายุขัยที่ยืนยาวขึ้น ส่งผลโดยตรงต่อการวางแผนการเงินของแต่ละบุคคล เพราะยิ่งเราใช้ชีวิตยาวนานขึ้นเท่าไร การใช้เงินในอนาคตยิ่งต้องมีมากเพียงพอ และมั่นคงมากขึ้นเท่านั้น โดยการใช้ชีวิตแบบ Longevity มีความเกี่ยวข้องกับการวางแผนการเงินในมิติต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
- Longevity ต้องใช้เงินหลังเกษียณนานขึ้น : หากคนยุคใหม่มีอายุยืนถึง 85–90 ปี แต่เกษียณตอน 60 ปี นั่นหมายถึงต้องมีเงินเพียงพอสำหรับการใช้ชีวิตอีกกว่า 25–30 ปี ดังนั้นการวางแผนเกษียณแบบเดิมอาจไม่เพียงพออีกต่อไป
- ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพเพิ่มสูงขึ้นตามอายุ : แม้จะดูแลสุขภาพดี แต่ในวัยสูงอายุมักมีค่าใช้จ่ายด้านการแพทย์เพิ่มขึ้น เช่น ค่ายา ค่าตรวจสุขภาพ หรือค่ารักษาโรคเรื้อรัง ทำให้ต้องมีงบประมาณสำรองมากกว่าวัยอื่น ๆ
- ใช้ชีวิตแบบ Longevity ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น หากไม่มีเงินสำรองฉุกเฉิน : เมื่อมีอายุยืนขึ้น ความไม่แน่นอนของชีวิต เช่น อุบัติเหตุ โรคภัย หรือภาวะเศรษฐกิจ ย่อมเกิดขึ้นได้มากขึ้น การมีเงินสำรองฉุกเฉินจึงจำเป็นกว่าที่เคย
- ใช้ชีวิตแบบ Longevity จำเป็นต้องวางแผนการลงทุนระยะยาว : Longevity ทำให้การลงทุนกลายเป็นเรื่องสำคัญ เพราะการออมเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ จำเป็นต้องให้เงินเติบโตผ่านการลงทุนที่เหมาะสมกับอายุ และความเสี่ยง
- ใช้ชีวิตแบบ Longevity ต้องเตรียมแผนสวัสดิการ และประกันสุขภาพ : การมีประกันสุขภาพ ประกันชีวิต หรือประกันโรคร้ายแรงช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในวัยสูงอายุ และป้องกันไม่ให้เงินเก็บหมดก่อนเวลาที่วางแผนไว้
- ใช้ชีวิตแบบ Longevity ต้องวางแผนมรดก และทรัพย์สินให้ชัดเจน : การมีชีวิตที่ยืนยาวขึ้นทำให้การจัดการทรัพย์สินกลายเป็นเรื่องสำคัญ เช่น การทำพินัยกรรม การวางแผนภาษี เพื่อให้คนรุ่นต่อไปไม่ต้องรับภาระโดยไม่จำเป็น
กล่าวโดยสรุป Longevity ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของการมีชีวิตที่ยืนยาวเพียงเท่านั้น แต่ Longevity เป็นตัวแปรสำคัญที่ต้องบูรณาการเข้ากับการวางแผนการเงินทุกด้าน เพื่อให้ชีวิตในระยะยาวมั่นคง ปลอดภัย และมีคุณภาพตามที่เราต้องการ
แน่นอนว่าสำหรับผู้ที่กำลังให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพทางการเงินของตัวเองเป็นอย่างดี เพื่อวางแผนรองรับการใช้ชีวิตแบบ Longevity การสร้างหนี้ถือเป็นเรื่องที่อันตรายมาก ดังนั้นสำหรับใครที่หมุนเงินไม่ทัน หรือเดือนไหนมีบิลฉุกเฉินต้องจ่ายก็สามารถเบิกเงินเดือนล่วงหน้าของตัวเอง กับ FINN มาใช้ก่อนได้ https://go.finn-app.com/finnis0424 ไม่ต้องเป็นหนี้ใคร ไม่กระทบต่อสุขภาพทางการเงิน