ลงทุนแบบ DCA คืออะไร มีข้อดีแบบไหน ?
DCA คืออะไร การลงทุนแบบนี้ดีจริงหรือไม่ ? เหมาะกับนักลงทุนมือใหม่จริงไหม ? การลงทุนแบบ DCA มีข้อดีอย่างไร และมีข้อเสียอะไรที่ควรทราบกันไว้ก่อนตัดสินใจลงทุน
ในยุคที่เราต่างก็ทราบว่าควรสร้าง Passive Income กันไว้ มีหลายคนเลือกวิธีการลงทุนเพื่อให้เกิดการต่อยอดทางการเงิน ซึ่งผู้ที่กำลังศึกษาเกี่ยวกับการลงทุนคงจะพอเคยได้ยินเกี่ยวกับ DCA กันมาบ้าง แล้วเจ้าวิธีลงทุนแบบ DCA คืออะไร ดีจริงหรือไม่ มีข้อดี-ข้อเสียแบบไหน FINN ได้สรุปมาให้อ่านทำความเข้าใจในบทความนี้อย่างครบครัน
DCA คืออะไร ?
KAsset ให้ข้อมูล DCA ว่า DCA (Dollar Cost Averaging) คือ วิธีการลงทุนแบบถัวเฉลี่ยต้นทุน ซึ่งนักลงทุนจะทยอยลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ เช่น หุ้น กองทุน หรือสินทรัพย์ทางการเงินอื่น ๆ ด้วยจำนวนเงินที่เท่ากันในช่วงเวลาที่กำหนดอย่างสม่ำเสมอ เช่น รายเดือน หรือรายไตรมาส โดยไม่คำนึงถึงราคาของสินทรัพย์ในขณะนั้น วิธีนี้ช่วยลดความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาในตลาด เพราะเมื่อตลาดอยู่ในช่วงขาลง นักลงทุนจะได้ซื้อสินทรัพย์ในราคาที่ต่ำลง และเมื่อราคาสูงขึ้นก็จะซื้อได้น้อยลง ทำให้ต้นทุนเฉลี่ยของการลงทุนลดลงในระยะยาว DCA จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างวินัยในการลงทุน และไม่มีเวลาติดตามความเคลื่อนไหวของตลาดอย่างใกล้ชิด อีกทั้ง DCA ยังช่วยลดความกังวลในการตัดสินใจซื้อ หรือขายในช่วงเวลาที่ตลาดมีความผันผวนสูงอีกด้วย
การลงทุนแบบ DCA ดีจริงไหม ?
การลงทุนแบบ DCA (Dollar Cost Averaging) ถือเป็นวิธีการลงทุนที่มีประโยชน์ในหลายแง่มุม โดยเฉพาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาด และไม่มีเวลาติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด วิธีลงทุนแบบ DCA ช่วยสร้างวินัยทางการเงิน ด้วยการลงทุนอย่างสม่ำเสมอในจำนวนเงินที่เท่ากัน ไม่ว่าจะเป็นช่วงที่ตลาดอยู่ในสภาวะขาขึ้น หรือขาลง ทำให้นักลงทุนสามารถเฉลี่ยต้นทุนการลงทุนในระยะยาว และ DCA ยังช่วยลดความเสี่ยงจากการตัดสินใจผิดพลาดในช่วงที่ตลาดผันผวน
อย่างไรก็ตาม DCA อาจไม่เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มุ่งหวังผลตอบแทนสูงในระยะสั้น หรือในสินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูงมาก การพิจารณาความเหมาะสมของวิธีการนี้จึงขึ้นอยู่กับเป้าหมายทางการเงิน และความสามารถในการรับความเสี่ยงของนักลงทุนแต่ละคนนั่นเอง
DCA มีข้อดีอย่างไร ?
- ช่วยลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาด : วิธีลงทุนแบบ DCA ช่วยให้นักลงทุนไม่ต้องกังวลกับการเลือกเวลาซื้อขายที่เหมาะสมในตลาดที่มีความผันผวน เพราะการลงทุนอย่างสม่ำเสมอจะช่วยเฉลี่ยต้นทุนทั้งในช่วงที่ราคาสูง และราคาต่ำ
- ช่วยสร้างวินัยทางการเงิน : การลงทุนในจำนวนเงินที่เท่ากันทุกงวดช่วยส่งเสริมวินัยทางการเงิน ทำให้นักลงทุนสามารถเก็บออม และลงทุนอย่างต่อเนื่องเป็นระบบ
- ช่วยลดความกังวลทางอารมณ์ : นักลงทุนไม่ต้องกังวล หรือลังเลในการตัดสินใจซื้อขายในช่วงที่ตลาดผันผวน เพราะ DCA ใช้หลักการลงทุนอย่างสม่ำเสมอโดยไม่ต้องพิจารณาสภาวะตลาด
- เหมาะสำหรับนักลงทุนมือใหม่ : วิธีลงทุนแบบ DCA เป็นวิธีที่ง่าย และไม่ซับซ้อน เหมาะสำหรับนักลงทุนมือใหม่ที่ยังไม่มีความเชี่ยวชาญในการจับจังหวะตลาด
- ช่วยลดต้นทุนการลงทุนระยะยาว : เนื่องจาก DCA ช่วยให้ซื้อสินทรัพย์ในราคาที่แตกต่างกัน การลงทุนในช่วงราคาที่ต่ำจะช่วยลดต้นทุนเฉลี่ย ทำให้ได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าในระยะยาว
- สามารถเริ่มต้นด้วยเงินลงทุนจำนวนน้อย : DCA ไม่จำเป็นต้องใช้เงินลงทุนก้อนใหญ่ นักลงทุนนำเงินจำนวนเล็กน้อยมาลงทุนอย่างสม่ำเสมอได้ ซึ่งช่วยให้การลงทุนเป็นเรื่องที่เข้าถึงง่าย
- เหมาะสำหรับการลงทุนระยะยาว : การลงทุนแบบ DCA สร้างผลตอบแทนที่มั่นคงในระยะยาว โดยลดผลกระทบจากความผันผวนของตลาด
กล่าวคือวิธีลงทุนแบบ DCA ถือเป็นกลยุทธ์ที่มีประโยชน์สำหรับผู้ที่มุ่งเน้นการสร้างความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว และหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากการจับจังหวะตลาดที่ผิดพลาดนั่นเอง
DCA มีข้อเสียอย่างไร ?
- ผลตอบแทนอาจต่ำกว่าการลงทุนแบบจับจังหวะตลาด : แม้ว่าวิธีลงทุนแบบ DCA จะลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาด แต่ในบางกรณี การจับจังหวะตลาดที่ถูกต้องอาจให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า DCA
- ไม่เหมาะสำหรับสินทรัพย์ที่มีการเติบโตเร็ว : วิธีลงทุนแบบ DCA อาจไม่เหมาะสำหรับสินทรัพย์ที่มีแนวโน้มราคาสูงขึ้นต่อเนื่อง เช่น หุ้นของบริษัทที่มีการเติบโตสูง เพราะการลงทุนแบบทยอยซื้ออาจทำให้ต้นทุนเฉลี่ยสูงขึ้น
- ต้องอาศัยระยะเวลายาวนาน : DCA เหมาะสำหรับการลงทุนระยะยาวเพื่อให้เกิดการเฉลี่ยต้นทุน การลงทุนในระยะสั้นอาจไม่เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน และอาจไม่คุ้มค่ากับการลงทุน
- อาจมีผลกระทบจากค่าธรรมเนียมการลงทุน : การลงทุนบ่อยครั้งตามแนวทาง DCA อาจทำให้เกิดค่าธรรมเนียมในการซื้อขายบ่อยครั้ง ซึ่งส่งผลกระทบต่อผลตอบแทนสุทธิในระยะยาว
- ไม่สามารถป้องกันความเสี่ยงทั้งหมด : แม้ DCA จะช่วยลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาด แต่ไม่สามารถป้องกันความเสี่ยงจากการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่องได้
- ต้องใช้ความสม่ำเสมอ และวินัยสูง : นักลงทุนต้องมีความสม่ำเสมอในการลงทุนตามระยะเวลาที่กำหนด หากขาดวินัยหรือหยุดลงทุน อาจทำให้ไม่เกิดประโยชน์สูงสุดจากกลยุทธ์ DCA
- DCA ไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลตอบแทนในระยะสั้น : DCA เน้นการลดความเสี่ยงในระยะยาว การลงทุนในระยะสั้นอาจไม่สร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจเท่ากับกลยุทธ์อื่น
การลงทุนแบบ DCA มีข้อเสียที่ควรพิจารณา โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลตอบแทนรวดเร็ว หรือการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง การตัดสินใจลงทุนจึงควรคำนึงถึงเป้าหมาย และความสามารถในการรับความเสี่ยงของตนเองร่วมด้วย
สำหรับใครที่ตัดสินใจที่จะใช้วิธีลงทุนแบบ DCA แน่นอนว่าก็จะต้องมีการแบ่งเงินของแต่ละเดือนออกมาใช้ลงทุนกันอย่างสม่ำเสมอ แต่หากเดือนไหนมีบิลฉุกเฉินต้องจ่าย ไม่อยากให้การจัดสรรปันส่วนเงินติดขัดจนกระทบการลงทุน ก็สามารถใช้บริการเบิกเงินเดือนล่วงหน้าของตัวเองมาใช้ก่อนได้ https://go.finn-app.com/finnis0424 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม กับ FINN ได้เลย