สูตรลัด! ดีท็อกซ์พฤติกรรมการใช้จ่าย จาก FINN
การดีท็อกซ์พฤติกรรมการใช้จ่าย คืออะไร ทำไมต้องทำการดีท็อกซ์พฤติกรรมการใช้จ่าย พฤติกรรมแบบไหนที่ต้องรีบดีท็อกซ์ด่วน ? วิธีการดีท็อกซ์การใช้จ่าบง่าย ๆ ที่ใครก็ทำได้
หลายคนอาจคุ้นเคยกับคำว่า “ดีท็อกซ์ร่างกาย” ที่หมายถึงการล้างสิ่งตกค้างออกจากร่างกายเพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น แต่รู้หรือไม่ว่าเราสามารถทำการ ดีท็อกซ์พฤติกรรมการใช้จ่ายได้เช่นกัน
ทั้งนี้เพราะพฤติกรรมทางการเงินที่สะสมมานาน ไม่ว่าจะเป็นการใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ซื้อของตามกระแส หรือขาดการวางแผน ล้วนเป็น “สารพิษตกค้างทางการใช้จ่าย” ที่ทำให้เงินขาดมือ ภาระหนี้สินเพิ่มขึ้น และไม่สามารถสร้างความมั่นคงในระยะยาวได้ ดั้งนั้นการปรับพฤติกรรมเหล่านี้ด้วยการดีท็อกซ์การเงิน จึงเปรียบเสมือนการฟื้นฟูสุขภาพทางการเงินให้กลับมาแข็งแรงอีกครั้ง
ในบทความนี้ FINN จะพาทุกคนไปทำความเข้าใจว่า การดีท็อกซ์พฤติกรรมการใช้จ่ายคืออะไร มีความสำคัญอย่างไร เพื่อที่ทุกคนจะได้ปรับพฤติกรรมการใช้จ่าย ใช้เงินอย่างมีสติ ช่วยให้มีเงินเก็บมากขึ้น ลดความเครียดจากภาระหนี้ และสร้างเสถียรภาพทางการเงินได้อย่างยั่งยืน
การดีท็อกซ์พฤติกรรมการใช้จ่าย คืออะไร ?
การดีท็อกซ์พฤติกรรมการใช้จ่าย คือกระบวนการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทางการเงิน โดยลด หรือตัดสิ่งที่ทำให้การเงินของเราแย่ลง เช่น การซื้อของตามอารมณ์ การใช้บัตรเครดิตเกินความจำเป็น หรือการไม่มีแผนรายรับ–รายจ่ายที่ชัดเจน เปรียบเสมือนการล้างสารพิษทางการเงินที่เกิดจากพฤติกรรมการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เพื่อให้ระบบการเงินกลับมาสุขภาพดี
โดยการดีท็อกซ์การใช้จ่ายนี้สิ่งสำคัญไม่ใช่แค่การหยุดใช้เงินซื้อของฟุ่มเฟือยเพียงเท่านั้น แต่คือการสร้างรูปแบบการใช้เงินใหม่ที่จะทำให้การเงินของเรามีความยั่งยืนมากขึ้น เช่น การออมอย่างมีเป้าหมาย การจัดงบประมาณการใช้จ่ายให้ชัดเจน และการใช้จ่ายอย่างมีสติอยู่เสมอ

ทำไมต้องดีท็อกซ์พฤติกรรมการใช้จ่าย ?
การทำดีท็อกซ์พฤติกรรมการใช้จ่ายนั้นเป็นสิ่งจำเป็นที่ทุกคนควรทำอยู่เสมอ เพราะพฤติกรรมการใช้เงินมีผลโดยตรงต่อคุณภาพชีวิต ความมั่นคง และอนาคตทางการเงินของเรา หากเรายังคงใช้เงินโดยไม่รู้จักควบคุมตนเอง ปัญหาทางการเงินย่อมเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเหตุผลสำคัญที่ทำให้เราควรดีท็อกซ์การใช้จ่าย มีดังต่อไปนี้
- ลดความเสี่ยงในการเป็นหนี้สิน : การใช้จ่ายโดยไม่จำเป็นอาจนำไปสู่การก่อหนี้ หากดีท็อกซ์พฤติกรรมการใช้จ่ายก็จะช่วยให้เราควบคุมการใช้เงิน และไม่สร้างหนี้ใหม่โดยไม่จำเป็น
- เพิ่มโอกาสในการเก็บออม : เมื่อใช้จ่ายอย่างมีสติ เงินที่เหลือจากการตัดค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือยสามารถนำไปเก็บออมเพื่ออนาคตได้
- สร้างความมั่นคงทางการเงิน : การมีเงินเก็บสำรองจะช่วยให้รับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดคิด เช่น ตกงาน หรือเจ็บป่วยได้โดยไม่กระทบต่อการใช้ชีวิตมากนัก
- ลดความเครียด และความกังวลใจ : การใช้จ่ายเกินตัวทำให้เกิดความกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายทุกเดือน แต่หากควบคุมได้ก็จะทำให้การชีวิต และการใช้เงินของเราเบาสบายขึ้น
- ทำให้มีเป้าหมายในการใช้จ่ายชัดเจน : การดีท็อกซ์พฤติกรรมการใช้จ่ายจะทำให้เราใช้เงินไปกับสิ่งที่จำเป็น และสอดคล้องกับเป้าหมายชีวิต เช่น การศึกษา การลงทุน หรือการวางแผนเกษียณ
- ช่วยสร้างวินัยทางการเงินระยะยาว : การปรับพฤติกรรมจะทำให้เรามีวินัย และความรับผิดชอบในการใช้เงินมากขึ้น ส่งผลดีต่อการเงินทั้งปัจจุบัน และอนาคต
สรุปได้ว่าการดีท็อกซ์พฤติกรรมการใช้จ่าย คือก้าวสำคัญที่ช่วยให้เราไม่เพียงจัดการเงินในปัจจุบันได้ดียิ่งขึ้นเท่านั้น แต่ยังสร้างความมั่นคง และโอกาสทางการเงินที่ดีกว่าในอนาคตอีกด้วย

ใช้จ่ายแบบนี้ ต้องรีบดีท็อกซ์ด่วน!
แน่นอนว่าแม้พฤติกรรมการใช้เงินบางอย่างอาจดูเหมือนไม่ส่งผลเสียในทันที แต่หากทำซ้ำบ่อย ๆ จะกลายเป็นสารพิษตกค้างทางการเงินที่สะสมจนทำให้ชีวิตขาดความมั่นคงได้ การเริ่ม ดีท็อกซ์พฤติกรรมการใช้จ่ายจึงถือเป็นสิ่งที่ควรทำอย่างเร่งด่วน โดยผู้ที่ควรเร่งรีบทำการดีท็อกซ์การใช้จ่ายด่วน มีดังต่อไปนี้
- ผู้ที่ใช้เงินเกินรายได้เป็นประจำ : หากรายได้ต่อเดือน 20,000 บาท แต่กลับใช้จ่ายมากกว่า 25,000 บาท โดยอาศัยบัตรเครดิต หรือการกู้ยืม แสดงว่ากำลังใช้เงินเกินตัว และควรเริ่มดีท็อกซ์ทันทีเพื่อป้องกันการเป็นหนี้สะสม
- ผู้ที่ซื้อของตามอารมณ์ หรือตามกระแสโซเชียล : การซื้อเพราะความอยากนั้นไม่ใช่ความจำเป็น เช่น ซื้อเสื้อผ้าทุกครั้งที่เห็นโปรโมชั่น หรือซื้อของตามรีวิวอินฟลูเอนเซอร์ เป็นพฤติกรรมที่ทำให้เงินรั่วไหลโดยไม่รู้ตัว
- ผู้ที่ไม่มีเงินออมแม้ทำงานมาหลายปี : หากทำงานมานานแต่ยังไม่มีเงินเก็บ หรือเก็บได้ก็หมดไปกับค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น แสดงว่าพฤติกรรมการใช้เงินไม่สมดุล และต้องรีบปรับปรุง
- ผู้ที่ผ่อนสินค้าเกินความจำเป็นหลายชิ้นพร้อมกัน : แม้การผ่อนจ่ายจะช่วยให้เข้าถึงสิ่งของที่ต้องการได้ง่ายขึ้น แต่หากผ่อนเกินความจำเป็น เช่น มือถือใหม่ รถยนต์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าหรูพร้อมกัน จะทำให้ภาระรายเดือนสูงเกินไป
- ผู้ที่ขาดการวางแผนการเงินล่วงหน้า : ใช้เงินเดือนชนเดือน ไม่มีงบประมาณที่ชัดเจน ไม่จดบันทึกรายรับ–รายจ่าย สิ่งเหล่านี้สะท้อนว่าเราขาดวินัยทางการเงิน และควรเริ่ม ดีท็อกซ์พฤติกรรมการใช้จ่ายโดยเร็ว
- ผู้ที่ใช้บัตรเครดิตเพื่อความสะดวก แต่จ่ายแค่ขั้นต่ำ : การชำระหนี้เพียงยอดขั้นต่ำทำให้ดอกเบี้ยทบต้นเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และอาจกลายเป็นหนี้ก้อนใหญ่ที่ยากต่อการแก้ไข

วิธีดีท็อกซ์พฤติกรรมการใช้จ่าย
- จดบันทึกรายรับ–รายจ่ายทุกวัน : การบันทึกค่าใช้จ่ายทำให้มองเห็นพฤติกรรมการใช้เงินอย่างแท้จริง และรู้ว่าเงินรั่วไหลไปกับสิ่งใดโดยไม่จำเป็น
- จัดทำงบประมาณรายเดือน : แบ่งเงินออกเป็นหมวดหมู่ เช่น ค่าใช้จ่ายจำเป็น ค่าออม และค่าใช้จ่ายเพื่อความบันเทิง เพื่อควบคุมการใช้เงินให้อยู่ในขอบเขตที่เหมาะสม
- ใช้กฎ 24 ชั่วโมงก่อนตัดสินใจซื้อ : หากอยากซื้อของที่ไม่จำเป็น ให้เวลากับตัวเองอย่างน้อย 1 วันในการทบทวนว่าสิ่งนั้นจำเป็นจริงหรือไม่ วิธีนี้ช่วยลดการซื้อของตามอารมณ์
- จำกัดการใช้บัตรเครดิต : หลีกเลี่ยงการใช้บัตรเครดิตเกินความจำเป็น และควรจ่ายเต็มจำนวนทุกครั้ง เพื่อลดดอกเบี้ยสะสมที่อาจกลายเป็นหนี้สินระยะยาว
- ตั้งเป้าหมายทางการเงินระยะสั้น และระยะยาว : เช่น เก็บเงินสำรองฉุกเฉินภายใน 6 เดือน หรือออมเพื่อซื้อบ้านในอนาคต การมีเป้าหมายจะช่วยสร้างแรงจูงใจให้เลิกพฤติกรรมใช้เงินฟุ่มเฟือย
- หากิจกรรมทดแทนการใช้เงิน : แทนที่จะใช้เวลาว่างไปกับการช้อปปิ้งออนไลน์ ควรหากิจกรรมอื่น เช่น ออกกำลังกาย หรือทำงานอดิเรกที่ไม่สิ้นเปลือง
- ทบทวนการเงินทุกสิ้นเดือน : การตรวจสอบผลการใช้เงิน และปรับปรุงแผนการเงินอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้การดีท็อกซ์เห็นผลจริงและต่อเนื่อง
การดีท็อกซ์พฤติกรรมการใช้จ่ายจะสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อทำอย่างสม่ำเสมอ และมีวินัย หากสามารถควบคุมพฤติกรรมเหล่านี้ได้ จะช่วยสร้างความมั่นคงทางการเงิน และลดความเสี่ยงในการเกิดหนี้สินในระยะยาวได้อย่างแท้จริง
สำหรับใครที่กำลังพยายามดีท็อกซ์การใช้จ่าย แต่มีบิลฉุกเฉินที่ไม่สามารถรับมือได้ สามารถเบิกเงินเดือนล่วงหน้าของตัวเองมาใช้ กับ FINN ก่อนได้ https://go.finn-app.com/finnis0424 ไม่ต้องไปกู้ยืมที่ไหน ลดความเสี่ยงในการสร้างปัญหาทางการเงินระยะยาว