วางแผนเงินเกษียณอย่างไร มีเงินใช้ไร้กังวล ?
เงินเกษียณ การวางแผนเงินเกษียณ คืออะไร ? หากเกษียณอายุแล้วจะได้รับเงินเมื่อไหร่ พนักงานเอกชน ข้าราชการเหมือนกันหรือไม่ ? วิธีการเริ่มต้นในการวางแผนเงินเกษียณ
เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ การวางแผนเงินเกษียณก็ถือเป็นเรื่องใกล้ตัวกว่าที่คิด แล้วเพื่อน ๆ รู้หรือไม่ว่าจะต้องทำการวางแผนเงินเกษียณกันอย่างไร ต้องเริ่มต้นแบบไหน วันนี้ FINN ได้นำวิธีเก็บเงิน หรือการวางแผนเงินเกษียณดี ๆ มาฝากให้ จะได้อุ่นใจ มีเงินใช้จ่าย ไม่ต้องเป็นภาระของลูกหลานยามเกษียณอายุนั่นเอง
การวางแผนเงินเกษียณ คืออะไร ?
การวางแผนเงินเกษียณอายุ เป็นการเตรียมการทางการเงินเพื่อให้มั่นใจว่าเราจะมีเงินเพียงพอสำหรับใช้ในช่วงชีวิตหลังจากที่ไม่สามารถทำงานหารายได้ได้อีก ไม่ว่าจะเป็นการเกษียณก่อนกำหนด หรือเมื่ออายุครบ 60 ปี โดยเงินที่วางแผนไว้ควรครอบคลุมค่าใช้จ่ายทุกด้าน เช่น ค่าเล่าเรียนของบุตรหลาน ค่าน้ำมันรถยนต์ และค่าอาหารในแต่ละวัน การวางแผนอย่างรอบคอบเช่นนี้ช่วยให้เรามั่นใจได้ว่าจะไม่ต้องดิ้นรนหารายได้เพิ่มเติมในช่วงเวลาที่สุขภาพเริ่มเสื่อมถอยนั่นเอง
เกษียณอายุ ได้รับเงินเกษียณเมื่อไหร่ ?
โดยทั่วไปแล้วการได้รับเงินเกษียณมักจะเกิดขึ้นเมื่อมีอายุครบตามเกณฑ์ที่กำหนดสำหรับการเกษียณ ซึ่งในประเทศไทยมักจะอยู่ที่ช่วงอายุ 55-60 ปี ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของนายจ้าง หรือกฎที่ได้มีการกำหนดไว้ของแต่ละองค์กร ทั้งนี้เงินเกษียณจะถูกจ่ายออกมาในรูปแบบต่าง ๆ เช่น เงินบำเหน็จ เงินบำนาญ หรือเงินสะสมจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และหากเป็นเงินจากกองทุนที่สะสมไว้จากการทำงานจะเริ่มได้รับเงินหลังจากที่เกษียณอายุ หรือออกจากงานตามเงื่อนไขที่กำหนด โดยเงินเกษียณจะมีแบ่งลักษณะเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ด้วยกันคือ การทำงานรับราชการ และพนักงานบริษัทเอกชน
เกษียณอายุราชการ
สำหรับข้าราชการในประเทศไทย การเกษียณอายุราชการจะเกิดขึ้นเมื่ออายุครบ 60 ปี โดยผู้ที่เกษียณจะได้รับเงินเกษียณจากสองประเภทหลัก ได้แก่ เงินบำเหน็จและเงินบำนาญ
- เงินบำเหน็จ : ข้าราชการที่เลือกแบบเงินบำเหน็จจะได้รับเงินก้อนครั้งเดียวหลังเกษียณ ซึ่งจะคำนวณจากเงินเดือนเฉลี่ยในช่วงสุดท้ายของการทำงาน และจำนวนปีที่รับราชการ
- เงินบำนาญ : ข้าราชการที่เลือกแบบเงินบำนาญจะได้รับเงินรายเดือนตลอดชีวิตหลังเกษียณ โดยคำนวณจากเงินเดือนเฉลี่ย และระยะเวลาการทำงานเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้การรับเงินเกษียณสำหรับผู้ที่เป็นข้าราชการจะเริ่มขึ้นหลังจากสิ้นปีงบประมาณ ซึ่งตรงกับวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี
เกษียณอายุ พนักงานบริษัท
ในส่วนของพนักงานบริษัทเอกชนแล้ว นอกเหนือจากเงินกองทุนต่าง ๆ ที่ได้ทำการเก็บสะสมไว้ ยังสามารถรับเงินชราภาพ หรือเงินบำเหน็จบำนาญในระบบประกันสังคมได้ เงินส่วนนี้ถือเป็นหลักประกันของมนุษย์เงินเดือนที่ทำให้ผู้ประกันตนอุ่นใจว่าจะมีเงินออมไว้ใช้จ่ายยามเกษียณ ซึ่งจะมีการคิดเป็นจำนวน 5% ของเงินเดือน (สูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท) หรือตั้งแต่ 250–750 บาท
โดยมีเงื่อนไขการรับเงินชราภาพจากสำนักงานประกันสังคมว่า จะต้องจ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า180 เดือน (ไม่ว่าระยะเวลา 180 เดือนจะติดต่อกันหรือไม่ก็ตาม) และมีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์
วางแผนเงินเกษียณอย่างไร ?
มาถึงหัวข้อที่ทุกคนรอคอย นั่นก็คือวิธีในการวางแผนเงินเกษียณ ว่าจะต้องมีการเริ่มต้นการวางแผนเงินเกษียณกันอย่างไร ซึ่งความจริงแล้วการวางแผนเงินเกษียณสามารถทำได้ง่าย ๆ โดยมีสิ่งที่ต้องคำนึงถึง และขั้นตอนในการวางแผน ดังนี้
- วางแผนเงินเกษียณด้วยการตั้งเป้าหมายเงินเก็บสำหรับวัยเกษียณ : การตั้งเป้าหมายเงินเก็บที่เพียงพอเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเกษียณ โดยคำนวณจากค่าใช้จ่ายในแต่ละปีหลังเกษียณคูณด้วยจำนวนปีที่คาดว่าจะใช้ชีวิตหลังเกษียณ โดยทั่วไปสามารถใช้สูตรคำนวณง่ายๆ คือ ค่าใช้จ่ายต่อปี คูณ 17 ปี ซึ่งถือเป็นอายุเฉลี่ยของคนไทยหลังเกษียณ และหากต้องการความแม่นยำที่มากขึ้น สามารถปรับจำนวนปีโดยอ้างอิงตามสุขภาพ และประวัติครอบครัวได้ด้วยเช่นกัน
- วางแผนเงินเกษียณด้วยการเก็บเงินอย่างค่อยเป็นค่อยไป : การเก็บเงินอย่างค่อยเป็นค่อยไป และมีวินัยในการออมเป็นสิ่งสำคัญ มนุษย์เงินเดือนสามารถใช้วิธีออมเงิน เช่น การหยอดกระปุก หรือทำบัญชีรายรับรายจ่าย เพื่อควบคุมการใช้จ่าย หรือเลือกซื้อประกันสะสมทรัพย์เพื่อสร้างเงินเก็บในระยะยาว
- อย่าลืมคิดอัตราเงินเฟ้อเข้าไปในการวางแผนเงินเกษียณ : การวางแผนเงินเกษียณต้องคำนึงถึงอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นทุกปี โดยใช้สูตร Future Value (FV = PV(1+i)^n) เพื่อคำนวณเงินเก็บที่เพียงพอในอนาคต และไม่ให้ค่าของเงินลดลงตามเวลา
- พยายามอย่าสร้างหนี้สินก้อนโตที่จัดการไม่ได้ก่อนเกษียณ : การมีหนี้สินหลังเกษียณเป็นภาระที่หนัก ดังนั้นควรวางแผนชำระหนี้ให้หมดก่อนเกษียณ เช่น การรีไฟแนนซ์บ้าน หรือการโปะหนี้เพื่อลดดอกเบี้ย
- วางแผนเงินเกษียณด้วยการลงทุนในกองทุนรวม : การลงทุนในกองทุนรวมเป็นทางเลือกที่ดีในการสร้างผลตอบแทนระยะยาว โดยเฉพาะกองทุนดัชนีที่มีการเติบโตตามเศรษฐกิจ ทั้งนี้ก่อนทำการลงทุนควรศึกษาวิธีการลงทุนที่ถูกต้อง และความเสี่ยงที่อาจได้รับอย่างละเอียด
- วางแผนเงินเกษียณด้วยการลองปรับเปลี่ยนรูปแบบการฝากเงิน : หากไม่ชอบความเสี่ยงจากการลงทุนในกองทุนรวม การฝากเงินในบัญชีเงินฝากที่ให้ผลตอบแทนคงที่ และมีความเสี่ยงต่ำ เช่น การใช้บัญชีเงินฝากที่ให้ดอกเบี้ยสูงก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ
- วางแผนเงินเกษียณด้วยการสร้าง Passive Income : แน่นอนว่าคงมีบางคนที่คิดว่าตัวเองนั้นไม่เหมาะกับการลงทุนในกองทุน หุ้นต่าง ๆ แต่หากจะรอดอกเบี้ยจากธนาคารเพียงอย่างเดียวก็อาจไม่พอ วิธีที่จะช่วยได้ก็คือการหาวิธีการที่จะสร้าง Passive Income ระยะยาวให้กับตัวเองได้ เช่นการซื้อที่ดินเก็งกำไร ซื้ออสังหาฯทำเลดีไว้ปล่อยเช่า ซื้อที่ไว้เพื่อทำที่จอดรถแบบเก็บเงิน เป็นต้น
วิธีเหล่านี้คือวิธีดี ๆ ที่จะช่วยให้ทุกคนสามารถวางแผนเงินเกษียณเพื่ออนาคตในระยะไกล และสำหรับใครที่ต้องการที่ปรึกษาด้านการเงินเพิ่มเติม หรือต้องการใช้บริการเบิกเงินเดือนล่วงหน้าของตนเองก็ปรึกษา FINN ได้ https://go.finn-app.com/finnis0424 สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้เลย