ทำธุรกิจควรมีหุ้นส่วนหรือไม่ ข้อดี-ข้อเสีย ของการมีหุ้นส่วน จาก FINN
หุ้นส่วน (Partner) คืออะไร มีความสำคัญอย่างไร เหมือนผู้ถือหุ้นไหม ทำธุรกิจควรที่จะมีหุ้นส่วนไหม ควรแบ่งกำไรกันอย่างไร ควรเลือกคนแบบไหน ข้อดี-ข้อเสีย ของการมีหุ้นส่วน

การทำธุรกิจไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องบริหารจัดการทุกอย่างเพียงลำพัง หลายคนจึงเลือกที่จะมีหุ้นส่วนเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระ และเพิ่มโอกาสในการเติบโตของธุรกิจ อย่างไรก็ตามการมีหุ้นส่วนก็มีทั้งข้อดี และข้อเสียที่ผู้ประกอบการควรพิจารณาให้รอบคอบก่อนตัดสินใจ วันนี้ FINN จึงได้นำข้อมูลน่ารู้ที่เกี่ยวกับหุ้นส่วนมาฝากให้ ทั้งข้อมูลว่าหุ้นส่วนมีความสำคัญอย่างไร มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร ไว้ประกอบการตัดสินใจก่อนเลือกหุ้นส่วนมาร่วมทำธุรกิจด้วยกัน
หุ้นส่วน คืออะไร ?
หุ้นส่วน (Partner) หมายถึง บุคคล หรือนิติบุคคลที่ร่วมลงทุนและบริหารธุรกิจร่วมกัน โดยสามารถมีข้อตกลงร่วมกันเกี่ยวกับการแบ่งผลกำไร หน้าที่ความรับผิดชอบ และอำนาจการตัดสินใจ หุ้นส่วนสามารถแบ่งออกเป็นหลายประเภท เช่น หุ้นส่วนทั่วไป (General Partner) และหุ้นส่วนจำกัดความรับผิด (Limited Partner) ซึ่งแต่ละประเภทมีบทบาทและข้อกำหนดที่แตกต่างกันไป
ผู้ถือหุ้น คืออะไร ?
ผู้ถือหุ้น คือ บุคคล หรือนิติบุคคลที่ถือหุ้นในบริษัท โดยมีสิทธิได้รับเงินปันผล และมีส่วนร่วมในการตัดสินใจของบริษัทผ่านการประชุมผู้ถือหุ้น อย่างไรก็ตามผู้ถือหุ้นไม่จำเป็นต้องเข้ามาบริหารธุรกิจโดยตรงเสมอไป ต่างจากหุ้นส่วนที่มักมีบทบาทในการบริหาร และดำเนินธุรกิจร่วมกัน กล่าวคือแม้หุ้นส่วน และผู้ถือหุ้นจะมีส่วนแบ่งในผลกำไรของบริษัทเหมือนกัน แต่หน้าที่รับผิดชอบต่างกัน และไม่เหมือนกันโดยสิ้นเชิง

หุ้นส่วน มีความสำคัญอย่างไร ?
การมีหุ้นส่วนสามารถช่วยให้ธุรกิจดำเนินไปได้อย่างราบรื่น โดยแต่ละฝ่ายสามารถแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบตามความถนัด ช่วยเพิ่มศักยภาพในการบริหารจัดการ นอกจากนี้หุ้นส่วนยังสามารถช่วยแบ่งเบาภาระทางการเงิน ลดความเสี่ยงทางธุรกิจ และเพิ่มโอกาสในการขยายกิจการได้อีกด้วย
ทำธุรกิจควรมีหุ้นส่วนหรือไม่ ?
การมีหุ้นส่วน หรือ Partner เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับธุรกิจที่ต้องการขยายตัว และต้องการทรัพยากรเพิ่มเติม อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญคือการเลือก Partner ที่เหมาะสม และกำหนดข้อตกลงที่ชัดเจนเพื่อลดความขัดแย้งในอนาคต หากผู้ประกอบการสามารถรับมือกับความเสี่ยง และข้อเสียบางประการได้ Partner อาจเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จของธุรกิจเลยทีเดียว
ข้อดีของการมีหุ้นส่วน
- แบ่งปันภาระการบริหาร : ช่วยลดภาระของผู้ก่อตั้ง จะได้ไม่ต้องรับภาระแต่เพียงลำพัง
- เพิ่มเงินลงทุน : Partner สามารถช่วยเสริมทุนให้ธุรกิจแข็งแกร่งขึ้น
- เพิ่มความเชี่ยวชาญ : Partner ที่มีทักษะเฉพาะทางสามารถช่วยพัฒนาธุรกิจให้เติบโตได้
- สร้างเครือข่ายธุรกิจ : Partner ที่มีคอนเนคชันดีสามารถช่วยเปิดโอกาสใหม่ ๆ ให้ธุรกิจ

ข้อเสียของการมีหุ้นส่วน
- อำนาจการตัดสินใจไม่เป็นเอกฉันท์ : อาจเกิดข้อขัดแย้งในการบริหาร
- อาจมีความขัดแย้งในการแบ่งผลกำไร : จึงต้องกำหนดให้ชัดเจนแต่แรก และกำไรต้องถูกแบ่งตามข้อตกลงที่ตั้งไว้
- ความเสี่ยงจากพฤติกรรมของ Partner : Partner ที่ไม่ซื่อสัตย์อาจทำให้ธุรกิจมีปัญหา
- ความยุ่งยากทางกฎหมาย : ข้อตกลงทางกฎหมายที่ไม่ชัดเจนอาจนำไปสู่ข้อพิพาทในอนาคต
หุ้นส่วนควรแบ่งกำไรกันอย่างไร ?
การแบ่งกำไรควรเป็นไปตามข้อตกลงที่กำหนดขึ้นตั้งแต่ต้น โดยพิจารณาจากสัดส่วนการลงทุน บทบาทหน้าที่ และความรับผิดชอบที่แต่ละฝ่ายมีต่อธุรกิจ นอกจากนี้ควรมีการทำข้อตกลงที่เป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อป้องกันความขัดแย้งในอนาคต
ทำธุรกิจประเภทไหน ควรมีหุ้นส่วนกี่คน ?
สำหรับคนที่ตัดสินใจแล้วว่าอยากเริ่มต้นทำธุรกิจโดยมี Partner ร่วมด้วย แต่ไม่แน่ใจว่าจะต้องหา Partner มาร่วมลงมือทำธุรกิจด้วยกี่คนดี ทั้งนี้การตัดสินใจเรื่องจำนวน Partner ต้องพิจารณาจากหลายปัจจัยด้วยกัน เช่น ขนาดของธุรกิจ ประเภทของธุรกิจ เงินทุนที่มี ความเชี่ยวชาญของ Partner ที่ต้องการมาช่วยเหลือ ซึ่งโดยปกติแล้วจำนวน Partner ที่นิยมมีในธุรกิจประเภทต่าง ๆ จะมีดังต่อไปนี้
- ธุรกิจขนาดเล็ก (SME) : ควรมี 2-3 คน เพื่อให้การบริหารจัดการง่ายขึ้น
- ธุรกิจสตาร์ทอัพ : ควรมี 2-5 คน ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านต่างๆ เช่น เทคโนโลยี การตลาด และการเงิน
- ธุรกิจร้านอาหาร : ควรมี 2-4 คนโดยอาจมีทั้งผู้ดูแลด้านการบริหาร และผู้ดูแลด้านเงินลงทุน

ควรเลือกคนแบบไหนเป็นหุ้นส่วน ?
แน่นอนว่าสำหรับการเลือก Partner นั้นจะเลือกมาแบบง่าย ๆ ไม่ได้ แต่ต้องมีการคิดพิจารณาให้รอบคอบก่อนตัดสินใจ โดยคุณสมบัติของคนที่ควรเลือกมาทำธุรกิจด้วยกันควรมีลักษณะดังต่อไปนี้
- มีความซื่อสัตย์ และไว้ใจได้ : เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาจนต้องเป็นข้อพิพาททางกฎหมาย และการเงิน
- มีเป้าหมาย และวิสัยทัศน์เดียวกัน : เพื่อลดความขัดแย้งในการบริหาร
- มีทักษะที่เสริมกัน : Partner ควรมีจุดแข็งที่แตกต่างกันเพื่อเสริมศักยภาพของธุรกิจ
- มีสถานะทางการเงินที่มั่นคง : เพื่อลดความเสี่ยงในการลงทุนร่วมกัน
สิ่งที่ควรทำกับหุ้นส่วน เพื่อให้การทำธุรกิจร่วมกันราบรื่น
ธนาคารกรุงศรีให้ข้อมูลเคล็ดลับทำธุรกิจกับเพื่อน ว่าก่อนจะเริ่มลงมือทำธุรกิจร่วมกัน ควรมีการเตรียมตัวดังนี้เพื่อลดความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต
- ใช้เงินดีกว่าใช้ใจ
- แยกแยะให้ได้ แบ่งบทบาทให้ชัด
- รู้จักไว้วางใจ และให้เกียรติกัน
- วางแผนรับมือกับความล้มเหลวร่วมกัน
การมีหุ้นส่วนเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ แม้ว่าจะช่วยแบ่งเบาภาระ และเพิ่มโอกาสให้ธุรกิจเติบโตได้เร็วขึ้น แต่ก็อาจนำไปสู่ข้อขัดแย้งได้หากไม่มีการบริหารจัดการที่ดี การทำข้อตกลงที่ชัดเจนตั้งแต่ต้นจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้การเป็น Partner เป็นไปอย่างราบรื่น
สำหรับพนักงานประจำที่กำลังเริ่มทำอาชีพเสริมเป็นผู้ประกอบการมือใหม่ หากเดือนไหนมีบิลฉุกเฉินต้องจ่าย ธุรกิจยังไม่มีผลกำไร สามารถเบิกเงินเดือนล่วงหน้าของตัวเองมาใช้จ่าย กับ FINN ได้ https://go.finn-app.com/finnis0424 สะดวกสบาย ดำเนินการรวดเร็ว