FINN สรุปให้ พฤติกรรมทางการเงินที่ได้ไปต่อ ปี 2026

ก้าวเข้าสู่ปี 2026 การวางแผนการเงินอย่างชาญฉลาดไม่ได้เป็นเพียงทางเลือก แต่เป็น “ความจำเป็น” ที่ต้องทำของคนยุคใหม่ซึ่งต้องรับมือกับเศรษฐกิจผันผวน ค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้น และพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ในสถานการณ์เช่นนี้การสร้างพฤติกรรมทางการเงิน ที่ดีจึงเป็นรากฐานสำคัญของความมั่นคงในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นการออม การลงทุน การควบคุมการใช้จ่าย หรือการสร้างวินัยทางการเงินต่าง ๆ เพราะ “นิสัยทางการเงิน” ที่เราฝึกฝนในวันนี้ จะเป็นตัวกำหนดคุณภาพชีวิตทางการเงินของเราในอนาคต

ในบทความนี้ FINN จะสรุปให้ว่า “พฤติกรรมทางการเงินแบบไหนที่ควรพกไปต่อในปี 2026” เพื่อให้เราทุกคนสามารถก้าวเข้าสู่ปีใหม่ด้วยความมั่นใจ พร้อมแนวทางสร้างนิสัยทางการเงินที่เข้มแข็ง และเหมาะกับยุคสมัย ทั้งสำหรับวัยทำงาน ฟรีแลนซ์ หรือคนที่เริ่มต้นจัดการการเงินของตนเอง เพราะเมื่อพฤติกรรมทางการเงินถูกต้อง โอกาสเติบโต และมั่นคงก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย ไม่ว่าปี 2026 จะเปลี่ยนแปลงเพียงใด เราก็จะพร้อมรับมืออย่างมั่นคง และมีทิศทางที่ชัดเจนในเส้นทางการเงินของตนเอง

พฤติกรรมทางการเงินที่ได้ไปต่อ ปี 2026 

ใครที่ยังไม่ค่อยแน่ใจว่าจะมีการตั้งเป้าหมายพฤติกรรมทางการเงินของตนเองในปีหน้าอย่างไร ลองนำไอเดียที่ FINN คัดกรองมาให้แล้วไปใช้ โดยพฤติกรรมทางการเงินที่ได้ไปต่อ ปี 2026 มีดังต่อไปนี้

พฤติกรรมทางการเงิน : ใช้เงินแบบมีสติ ลดพฤติกรรมใช้จ่ายตามอารมณ์

หนึ่งในพฤติกรรมทางการเงินที่สำคัญในปี 2026 คือการใช้เงินอย่างมีสติ หลีกเลี่ยงการซื้อของตามอารมณ์ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเงินตึงตัว และหนี้สินไม่จำเป็น การสร้างนิสัยทางการเงินแบบใหม่จำเป็นต้องอาศัยการตั้งสติทุกครั้งก่อนใช้เงิน ตั้งคำถามว่า “จำเป็นจริงไหม” และ “ส่งผลต่อเป้าหมายการเงินในอนาคตอย่างไร” ช่วยให้ควบคุมความอยากได้ดีขึ้น ลดการใช้จ่ายเกินตัว และเพิ่มพื้นที่ให้การออม และการลงทุนได้เติบโตอย่างมั่นคงมากขึ้น

พฤติกรรมทางการเงิน : ออมก่อนใช้เสมอ วินัยที่ควรพกไปต่อ

การ “ออมก่อนใช้” หรือ Pay Yourself First ยังคงเป็นนิสัยทางการเงินที่ได้ไปต่อในปี 2026 เพราะช่วยสร้างวินัยการจัดสรรเงินอย่างเป็นระบบ เมื่อได้รับเงินเดือนควรแบ่งเงินออมทันทีโดยไม่รอให้มีเงินเหลือ การกำหนดสัดส่วนออมที่เหมาะสม เช่น 10–20% ทำให้สามารถสร้างเงินก้อนระยะยาวอย่างต่อเนื่อง การทำเช่นนี้เป็นพื้นฐานของความมั่นคงทางการเงิน และช่วยลดความเสี่ยงทางเศรษฐกิจได้อย่างชัดเจน

พฤติกรรมทางการเงิน : ลงทุนสม่ำเสมอ ไม่รอจังหวะตลาด

อีกหนึ่งพฤติกรรมทางการเงินที่เหมาะกับปี 2026 คือการลงทุนสม่ำเสมอโดยไม่ต้องรอจังหวะ เพราะตลาดผันผวนเกินกว่าจะคาดเดา การลงทุนแบบ DCA ช่วยลดความเสี่ยงจากความผันผวนของราคา ทำให้ค่าเฉลี่ยการซื้อสมดุล และเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนระยะยาว การสร้างนิสัยลงทุนเป็นประจำจึงเป็นทักษะสำคัญที่ทุกคนควรทำเพื่อเพิ่มการเติบโตทางการเงินในอนาคต

พฤติกรรมทางการเงิน : บริหารหนี้อย่างมีวินัย หลีกเลี่ยงหนี้ฟุ่มเฟือย

การบริหารหนี้เป็นนิสัยทางการเงินที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในยุคที่ค่าครองชีพสูง การชำระหนี้ตรงเวลา หลีกเลี่ยงสินเชื่อฟุ่มเฟือย และควบคุมสัดส่วนหนี้ต่อรายได้ไม่ให้เกิน 40% จะช่วยให้สภาพคล่องทางการเงินมั่นคง การลดหนี้ดอกเบี้ยสูง เช่น บัตรเครดิต หรือสินเชื่อส่วนบุคคล รวมถึงการปรับโครงสร้างหนี้เมื่อจำเป็น จะทำให้สามารถกลับมาโฟกัสกับเป้าหมายทางการเงินอื่น ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

พฤติกรรมทางการเงิน : สร้างรายได้หลายช่องทางเพื่อความมั่นคง

ในปี 2026 ความเสี่ยงรายได้ไม่แน่นอนเพิ่มขึ้น ทำให้การมีรายได้หลายทางกลายเป็นพฤติกรรมทางการเงินที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นงานประจำควบคู่กับงานเสริม การทำธุรกิจออนไลน์ หรือสร้างรายได้แบบ Passive Income การกระจายแหล่งรายได้ช่วยลดความเสี่ยงหากรายได้หลักลดลง และเพิ่มศักยภาพการออม และลงทุนมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

พฤติกรรมทางการเงิน : วางแผนเกษียณตั้งแต่อายุยังน้อย

Longevity ทำให้ผู้คนมีอายุยืนยาวขึ้น ส่งผลให้ต้องใช้เงินในวัยเกษียณมากกว่าเดิม การสร้างนิสัยทางการเงินที่ดีคือเริ่มวางแผนเกษียณตั้งแต่อายุยังน้อย การคำนวณค่าใช้จ่ายหลังเกษียณ เลือกสินทรัพย์ลงทุนที่เหมาะสม และเพิ่มเงินออมเพื่อเกษียณทุกปี เป็นสิ่งจำเป็นในการสร้างคุณภาพชีวิตที่มั่นคงในวัยบั้นปลาย

พฤติกรรมทางการเงิน : ให้ความสำคัญกับเงินสำรองฉุกเฉิน

เงินสำรองฉุกเฉินอย่างน้อย 3–6 เดือน เป็นพฤติกรรมทางการเงินพื้นฐานที่ทุกคนควรมีในปี 2026 เพราะความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ โรคระบาด หรือเหตุการณ์ฉุกเฉินต่าง ๆ อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา การมีเงินสำรองช่วยลดความเครียด ไม่ต้องกู้หนี้เพิ่ม และเป็นเกราะป้องกันที่สำคัญก่อนเริ่มลงทุนในสินทรัพย์อื่น ๆ

พฤติกรรมทางการเงิน : ตรวจสุขภาพการเงินประจำปีเหมือนตรวจสุขภาพร่างกาย

นิสัยทางการเงินที่ดีในปี 2026 คือ การตรวจสุขภาพการเงินเป็นประจำ โดยทบทวนรายรับ–รายจ่าย ประเมินพอร์ตการลงทุน ตรวจสอบหนี้สิน และปรับแผนให้เหมาะสมกับเป้าหมายปัจจุบัน การทำเช่นนี้ช่วยให้รู้ทันปัญหาเร็วขึ้น และแก้ไขได้ก่อนที่จะลุกลาม

พฤติกรรมทางการเงิน : ใช้เทคโนโลยีช่วยจัดการการเงินให้มีประสิทธิภาพ

เทคโนโลยีกลายเป็นผู้ช่วยสำคัญของพฤติกรรมทางการเงินยุคใหม่ ไม่ว่าจะเป็นแอปบันทึกรายจ่ายระบบแจ้งเตือนวันชำระหนี้ หรือแพลตฟอร์มการลงทุนอัตโนมัติ ล้วนช่วยเพิ่มความแม่นยำ และวินัยทางการเงิน การใช้เครื่องมือดิจิทัลจึงช่วยให้จัดการเงินได้ง่ายขึ้น สะดวกขึ้น และลดความผิดพลาดได้มากกว่าเดิม

พฤติกรรมทางการเงิน : สร้าง Mindset การเงินเชิงรุก ไม่รอให้ปัญหาเกิดก่อน

ท้ายที่สุดสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการสร้างมุมมอง และนิสัยทางการเงินเชิงรุก ซึ่งหมายถึงการวางแผนล่วงหน้า เรียนรู้ทักษะการเงินอย่างต่อเนื่อง และเตรียมพร้อมรับมือการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็นรายได้ เศรษฐกิจ หรือภาระค่าใช้จ่าย การคิดเชิงรุกทำให้สามารถตัดสินใจด้านการเงินได้ดีขึ้น และช่วยให้เป้าหมายทางการเงินเป็นไปอย่างมั่นคงในระยะยาว

ทั้งนี้การสร้างหนี้โดยไม่จำเป็นยังคงเป็นศัตรูตัวฉกาจสำหรับผู้ที่อยากมีสุขภาพทางการเงินที่ดี ดังนั้นเมื่อวางแผนพฤติกรรมทางการเงินสำหรับปีหน้าแล้ว ก็ต้องระมัดระวังไม่สร้างหนี้เพิ่มเติมกันให้ดี หากเดือนไหนเงินไม่พอใช้ ยังไม่สามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของรายได้อย่างกระทันหันได้ ก็สามารถเบิกเงินเดือนล่วงหน้าของตัวเอง กับ FINN มาใช้ https://go.finn-app.com/finnis0424  ไม่ต้องเป็นหนี้ใคร ไม่กระทบต่อสุขภาพทางการเงิน