จำนำ คืออะไร สิ่งที่ควรทราบก่อนตัดสินใจนำของไปจำนำ

การจำนำ คืออะไร เป็นการทำธุรกรรมที่ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ? การนำของไปจำนำที่ร้านจำนำมีข้อดี และข้อเสียอย่างไร ? คิดดอกเบี้ยเท่าไหร่ ของหลุดจำนำซื้อคืนได้ไหม ?

จำนำ คืออะไร ?
จำนำ

‘จำนำ’ อีกหนึ่งทางเลือกในการแก้ปัญหารายจ่ายยามเมื่อเงินขาดมือ หรือเมื่อประสบปัญหาสภาพคล่องทางการเงินชั่วคราว ซึ่งเมื่อพูดถึงการจำนำแล้วหลายคนก็จะนึกถึงการนำของไปแลกกับเงินมาใช้ และรอวันไถ่ของคืนเมื่อสามารถหาเงินได้ แต่แท้จริงแล้วการจำนำ คืออะไร มีรายละเอียดปลีกย่อยที่ควรรู้อย่างไร วันนี้ FINN ได้นำเกร็ดความรู้เรื่องการจำนำมาอธิบายให้ทุกคนเข้าใจในบทความนี้ 

จำนำ คืออะไร ?

KTC ให้ข้อมูลการจำนำว่า การจำนำ คือ การนำทรัพย์สินที่มีมูลค่าไปวางไว้กับผู้รับจำนำ เพื่อเป็นหลักประกันในการแลกเปลี่ยนกับเงิน ซึ่งอาจเป็นสถาบันการเงิน ร้านทอง โรงรับจำนำ หรือร้านรับจำนำทั่วไป โดยทรัพย์สินที่สามารถนำไปจำนำได้ต้องเป็นทรัพย์สินที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ และไม่มีทะเบียน เช่น ทองคำ เครื่องเพชร โทรศัพท์มือถือ รถยนต์ กระเป๋าแบรนด์เนม และเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ยกเว้นทรัพย์สินที่เป็นของราชการ

ทั้งนี้เมื่อทำการจำนำแล้ว ผู้รับจำนำจะทำการประเมินมูลค่าทรัพย์สินนั้น ๆ และจำนวนเงินที่จะได้รับก็จะขึ้นอยู่กับมูลค่าของทรัพย์สินที่นำไปจำนำ เมื่อครบกำหนดสัญญา ผู้จำนำต้องนำเงินมาไถ่ถอนคืนพร้อมดอกเบี้ย หากไม่สามารถไถ่ถอนทรัพย์สินได้ ทรัพย์สินที่นำมาจำนำจะตกเป็นของผู้รับจำนำ

ข้อดีของการจำนำ
จำนำ ถูกกฎหมายไหม ?

การจำนำถูกกฎหมายหรือไม่ ?

โดยทั่วไปแล้วการนำของไปจำนำ ถือว่าเป็นการกระทำที่ถูกต้องตามกฎหมาย ทั้งนี้การจำนำจะถูกกฎหมายก็ต่อเมื่อเป็นการจำนำกับโรงรับจำนำของรัฐ หรือร้านค้า (โรงรับจำนำ/ร้านจำนำ) ที่จดทะเบียน และดำเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนดอย่างถูกต้อง 

อย่างไรก็ตามหากเป็นร้านรับจำนำที่ไม่ได้จดทะเบียน หรือจดทะเบียนแล้วแต่เรียกเก็บดอกเบี้ยสูงเกินที่กฎหมายกำหนด หรือผู้ที่นำททรัพย์สินไปจำนำนำทรัพย์สินของผู้อื่นมาจำนำโดยมิได้รับอนุญาต (เช่น การขโมยมา) จะถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายนั่นเอง

การจำนำ มีข้อดีอย่างไร ?

  • สามารถเข้าถึงเงินสดได้อย่างรวดเร็ว : การจำนำเป็นวิธีที่ช่วยให้สามารถเข้าถึงเงินสดได้อย่างรวดเร็ว เพียงนำทรัพย์สินที่มีมูลค่าไปให้ร้านรับจำนำประเมิน ก็สามารถรับเงินได้ทันทีโดยไม่ต้องผ่านกระบวนการตรวจสอบเครดิตที่ซับซ้อนเหมือนกับการขอสินเชื่อจากธนาคาร
  • ไม่ต้องขายทรัพย์สิน : การจำนำทำให้เจ้าของทรัพย์สินสามารถใช้เงินสดได้โดยไม่ต้องเสียทรัพย์สินไป เมื่อครบกำหนดสัญญา ผู้จำนำสามารถนำเงินมาไถ่ถอนทรัพย์สินกลับมาเป็นของตนเองได้
  • มีอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าวิธีการเงินกู้อื่น ๆ : ร้านรับจำนำที่จดทะเบียนมักมีการกำหนดอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสม และถูกกฎหมาย ซึ่งบางครั้งมีอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าการกู้ยืมจากแหล่งเงินกู้อื่น ๆ เช่น การกู้เงินนอกระบบ
  • ลดความเสี่ยงของการถูกดำเนินคดี : เนื่องจากเป็นธุรกรรมที่ถูกกฎหมาย หากทำผ่านสถานประกอบการที่มีใบอนุญาต และปฏิบัติตามข้อกำหนดตามกฎหมาย จึงช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาทางกฎหมายเมื่อเทียบกับการกู้เงินนอกระบบ
  • ไม่กระทบกับคะแนนเครดิต : ไม่จำเป็นต้องผ่านการตรวจสอบเครดิต และไม่มีผลกระทบต่อคะแนนเครดิต แม้ว่าจะไม่สามารถไถ่ถอนทรัพย์สินได้ก็จะไม่ส่งผลกระทบต่อสถานะทางเครดิตแต่อย่างใด
  • ขั้นตอนสะดวก และไม่ซับซ้อน : มีขั้นตอนที่สะดวก และรวดเร็ว ใช้เอกสารไม่มาก เพียงแค่มีทรัพย์สิน และบัตรประจำตัวประชาชนก็สามารถดำเนินการได้ทันที
จำนำ ข้อเสีย
ข้อเสียของการจำนำ

การจำนำ มีข้อเสียอย่างไร ?

  • เสี่ยงต่อการสูญเสียทรัพย์สิน : หากไม่สามารถชำระเงินเพื่อไถ่ถอนทรัพย์สินคืนได้ตามกำหนดเวลา ทรัพย์สินนั้นจะตกเป็นของผู้รับจำนำทันที ซึ่งหมายความว่าเราอาจสูญเสียทรัพย์สินที่มีมูลค่าไปอย่างถาวร
  • อัตราดอกเบี้ยสูงในบางกรณี : แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยจะถูกกำหนดตามกฎหมาย แต่หากจำนำกับร้านที่ไม่ใช่สถานประกอบการที่ได้รับการจดทะเบียน อัตราดอกเบี้ยอาจสูงกว่าปกติ ทำให้ต้องแบกรับภาระทางการเงินที่มากขึ้น ทั้งยังผิดกฎหมายอีกด้วย
  • มูลค่าการจำนำต่ำกว่ามูลค่าจริงของทรัพย์สิน : การประเมินราคาทรัพย์สินมักจะต่ำกว่ามูลค่าตลาดของทรัพย์สินนั้น ๆ เพื่อคำนึงถึงความเสี่ยงของผู้รับจำนำ ซึ่งทำให้เราได้รับเงินน้อยกว่ามูลค่าที่แท้จริงของทรัพย์สิน
  • มีเวลาจำกัดในการไถ่ถอน : มีระยะเวลาที่กำหนดในการไถ่ถอน หากไม่สามารถหาเงินมาคืนได้ตามเวลาที่ตกลงไว้ จะเสียสิทธิในการครอบครองทรัพย์สินนั้นไปอย่างถาวร
  • เสี่ยงต่อการเจอร้านที่ไม่ถูกกฎหมาย : หากเราไม่ได้ตรวจสอบให้ละเอียดก่อนจำนำ อาจพบกับร้านที่ไม่มีใบอนุญาต หรือเรียกเก็บดอกเบี้ยสูงเกินกฎหมาย ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาทางกฎหมาย และสูญเสียทรัพย์สินโดยไม่เป็นธรรม

การจำนำคิดดอกเบี้ยเท่าไหร่ ?

การคิดอัตราดอกเบี้ยนั้นจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับประเภทของสถานประกอบการที่ให้บริการรับจำนำ โดยทั่วไปโรงรับจำนำของรัฐฯ มักจะมีอัตราดอกเบี้ยที่ถูกกำหนดโดยกฎหมายเพื่อไม่ให้เกิดภาระเกินควรกับผู้จำนำ โดยอัตราดอกเบี้ยจะอยู่ระหว่าง 1-2% ต่อเดือน ซึ่งแตกต่างตามมูลค่าทรัพย์สินที่นำมาจำนำ หากเป็นร้านเอกชนที่มีการจดทะเบียนถูกต้อง อัตราดอกเบี้ยจะใกล้เคียงกับที่กำหนดไว้ตามกฎหมาย 

อย่างไรก็ตามควรหลีกเลี่ยงการจำนำกับร้านที่ไม่ได้จดทะเบียน หรือเรียกเก็บดอกเบี้ยสูงเกินที่กฎหมายกำหนด เพราะอาจเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย และเพิ่มภาระทางการเงินให้กับตัวเรานั่นเอง

ของหลุดจำนำ คืออะไร ?
ของหลุดจำนำ

ของหลุดจำนำ คืออะไร ?

ของหลุดจำนำ หมายถึง ทรัพย์สินที่ผู้จำนำได้นำไปจำนำไว้กับโรงรับจำนำ หรือร้านรับจำนำ แต่ไม่สามารถชำระเงินเพื่อไถ่ถอนทรัพย์สินนั้นกลับคืนได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด ทำให้ทรัพย์สินดังกล่าวตกเป็นของผู้รับจำนำโดยอัตโนมัติ 

โดยทั่วไปแล้วของหลุดจำนำมักจะถูกนำออกมาจำหน่ายในราคาที่ต่ำกว่าราคาตลาด เนื่องจากผู้รับจำนำต้องการคืนทุน และลดความเสี่ยงจากการเก็บรักษาทรัพย์สินนั้น ๆ ของหลุดจำนำจึงมักได้รับความสนใจจากผู้บริโภคที่ต้องการซื้อสินค้าคุณภาพดีในราคาที่ถูกกว่า

หลุดจำนำ ซื้อคืนได้ไหม ?

โดยปกติแล้ว เมื่อทรัพย์สินหลุดจำนำไปแล้วจะตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้รับจำนำทันที ผู้จำนำจะไม่สามารถซื้อคืนทรัพย์สินดังกล่าวได้ เนื่องจากได้พ้นระยะเวลาที่กำหนดในการไถ่ถอน หากต้องการซื้อคืนผู้จำนำอาจต้องรอให้ทรัพย์สินนั้นถูกนำออกจำหน่ายสู่สาธารณะในฐานะของหลุดจำนำ

ทั้งนี้โอกาสที่จะได้ทรัพย์สินเดิมกลับมาขึ้นอยู่กับการเปิดจำหน่าย และความต้องการของผู้ซื้อรายอื่น ดังนั้นหากต้องการไถ่ถอนทรัพย์สินคืน ควรดำเนินการภายในระยะเวลาที่กำหนด เพื่อป้องกันไม่ให้ทรัพย์สินนั้นหลุดจำนำนั่นเอง

หลังจากที่ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับการจำนำไปแล้ว ใครคิดว่าไม่อยากนำของมีค่าที่มีอยู่ไปจำนำเพื่อนำเงินมาใช้จ่ายยามมีค่าใช้จ่ายฉุกเฉินก็สามารถใช้บริการเบิกเงินเดือนล่วงหน้าของตัวเองมาใช้ก่อนได้ https://go.finn-app.com/finnis0424 ไม่ต้องนำสิ่งของไปจำนำเพื่อเอาเงินมาใช้ ไม่เสี่ยงทำให้ของสำคัญหลุดจำนำ