ติดบูโร ควรทำอย่างไร คะแนนเครดิตบูโรไม่ดีสามารถแก้ไขได้หรือไม่ ?
ติดบูโร คืออะไร เกิดขึ้นจากอะไร เหมือนกับการติดแบล็กลิสต์หรือไม่ ติดแล้วสามารถซื้อรถ หรือซื้อบ้านได้ไหม ติดบูโรแก้ยังไง เมื่อติดแล้วกี่ปีถึงจะหาย และผลเสียจากการติดบูโร

ปัจจุบันเครดิตบูโรเป็นปัจจัยสำคัญที่ธนาคาร และสถาบันการเงินใช้ในการพิจารณาสินเชื่อ ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อบ้าน สินเชื่อรถ หรือบัตรเครดิต หากมีประวัติการชำระเงินล่าช้า หรือค้างชำระจนเข้าสู่สถานะ "ติดบูโร" อาจทำให้การขอสินเชื่อในอนาคตเป็นเรื่องยากขึ้น หลายคนสงสัยว่า ติดบูโร แก้ยังไง หากติดบูโร กี่ปีหาย บทความนี้ FINN จะช่วยไขข้อข้องใจคำถามที่หลายคนมักสงสัยเกี่ยวกับเครดิตบูโร พร้อมบอกแนวทางแก้ไขให้กลับมามีเครดิตที่ดีอีกครั้งนั่นเอง
เครดิตบูโร คืออะไร ?
เครดิตบูโร หรือ บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ เป็นองค์กรที่ทำหน้าที่เก็บรวบรวมข้อมูลสินเชื่อของบุคคล และนิติบุคคล โดยจะบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับประวัติการชำระหนี้ของลูกค้าธนาคาร และสถาบันการเงินต่าง ๆ ข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำไปใช้เป็นปัจจัยในการพิจารณาสินเชื่อ หากมีประวัติการชำระที่ดี ก็จะช่วยให้การขอสินเชื่อในอนาคตเป็นเรื่องง่ายขึ้น

ติดบูโร คืออะไร ?
ติดบูโร หมายถึง การที่บุคคลมีประวัติการค้างชำระหนี้เกินระยะเวลาที่กำหนด จนถูกบันทึกไว้ในระบบเครดิตบูโร ซึ่งอาจส่งผลต่อโอกาสในการขอสินเชื่อในอนาคต แม้ว่าการ "ติดบูโร" จะไม่ได้หมายความว่าคุณถูกขึ้นบัญชีดำ แต่ก็เป็นสัญญาณให้สถาบันการเงินพิจารณาความสามารถในการชำระหนี้ของคุณอย่างละเอียดมากขึ้น
ติดบูโร กับติดแบล็กลิสต์ เหมือนกันไหม ?
หลายคนมักเข้าใจผิดว่า ติดบูโร และ ติดแบล็กลิสต์ เป็นเรื่องเดียวกัน แต่ความจริงแล้วแตกต่างกันอย่างชัดเจน โดย JobsDB ให้ข้อมูลการติดบูโร และแบล็กลิสต์ว่า
- ติดบูโร : เป็นเพียงการบันทึกประวัติการชำระหนี้ของบุคคล ซึ่งสามารถแก้ไขได้โดยการชำระหนี้ให้เรียบร้อย และรอให้ข้อมูลถูกลบออกจากระบบตามระยะเวลาที่กำหนด
- ติดแบล็กลิสต์ : เป็นสถานะที่สถาบันการเงินบางแห่งใช้เพื่อระบุว่าลูกค้ารายนั้นมีประวัติการผิดนัดชำระหนี้ร้ายแรง และอาจถูกปฏิเสธการให้สินเชื่อในอนาคต แม้จะพ้นระยะเวลาที่เครดิตบูโรเก็บข้อมูลแล้ว
ดังนั้นแม้ว่าการติดบูโรจะส่งผลต่อการขอสินเชื่อแต่ไม่ได้หมายความว่าจะถูก "ขึ้นบัญชีดำ" และไม่สามารถขอสินเชื่อได้ตลอดไป หากมีวินัยทางการเงินที่ดี ก็สามารถกลับมามีเครดิตที่ดีได้อีกครั้งนั่นเอง
ติดบูโร เกิดจากอะไร ?
- ค้างชำระหนี้เกิน 90 วัน เช่น ค้างชำระบัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล หรือสินเชื่อบ้าน
- ไม่ได้ชำระหนี้อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะไม่ได้ค้างเกิน 90 วัน แต่หากมีพฤติกรรมชำระหนี้ล่าช้าบ่อย ๆ ก็อาจส่งผลต่อเครดิตบูโร
- มีการปรับโครงสร้างหนี้ บางกรณีแม้จะชำระหนี้ครบถ้วนแต่มีการเจรจาปรับโครงสร้างหนี้ ก็อาจส่งผลต่อคะแนนเครดิตเช่นกัน
- ถูกฟ้องร้องจากเจ้าหนี้ กรณีที่ลูกหนี้ไม่สามารถชำระหนี้ได้ และถูกฟ้องร้อง สถานะนี้อาจทำให้ขอสินเชื่อในอนาคตยากขึ้น

ติดบูโรซื้อรถได้ไหม ?
แม้จะติดบูโรก็ยังสามารถขอสินเชื่อรถยนต์ได้ แต่ทั้งนี้เมื่อติดบูโรจะมีเงื่อนไขที่เข้มงวดขึ้น เช่น ต้องมีเงินดาวน์สูงขึ้น หรืออาจต้องหาผู้ค้ำประกัน อย่างไรก็ตามธนาคารอาจพิจารณาจากรายได้ และความสามารถในการชำระหนี้เป็นหลักเป็นกรณีไป
ติดบูโรซื้อบ้านได้ไหม ?
การขอสินเชื่อบ้านขณะที่ติดบูโรเป็นเรื่องยาก เนื่องจากธนาคารมักจะตรวจสอบประวัติทางการเงินของผู้ขอสินเชื่ออย่างเข้มงวด อย่างไรก็ตามหากสามารถพิสูจน์ได้ว่ามีรายได้ที่มั่นคง และไม่มีหนี้ค้างชำระ อาจมีโอกาสได้รับการอนุมัติสินเชื่อ
ติดบูโรเข้าร่วมคลินิกแก้หนี้ได้หรือไม่ ?
คลินิกแก้หนี้ เป็นโครงการที่ช่วยให้ผู้ที่มีหนี้เสียสามารถปรับโครงสร้างหนี้ และกลับมามีเครดิตที่ดีขึ้นได้ ผู้ที่ติดบูโรสามารถเข้าร่วมโครงการนี้ได้หากมีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์ เช่น เป็นหนี้เสียที่ค้างชำระเกิน 90 วัน และเป็นหนี้จากสถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการ

ติดบูโร แก้ยังไง ?
- เคลียร์หนี้ที่ค้างชำระให้เร็วที่สุด : หากยังมีหนี้ค้าง ให้ติดต่อเจ้าหนี้เพื่อชำระให้หมดโดยเร็ว
- ขอเจรจาปรับโครงสร้างหนี้ : หากไม่สามารถชำระหนี้ได้ทั้งหมด สามารถเจรจากับธนาคารเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ได้
- มีวินัยในการชำระหนี้ใหม่ : หลีกเลี่ยงการค้างชำระหนี้ในอนาคต และรักษาประวัติการชำระให้ดี
- ตรวจสอบเครดิตบูโรของตนเอง : สามารถขอเช็กข้อมูลเครดิตบูโรได้จากศูนย์ตรวจเครดิตบูโร เพื่อดูว่ามีข้อมูลผิดพลาดหรือไม่
- ใช้บัตรเครดิต หรือสินเชื่ออย่างระมัดระวัง : ไม่ควรใช้บัตรเครดิตใช้จ่ายเกินความสามารถในการชำระคืนของตนเอง
ติดบูโร กี่ปีหาย ?
โดยทั่วไปข้อมูลเครดิตบูโรจะถูกเก็บไว้เป็นระยะเวลา 3 ปี หลังจากที่ชำระหนี้เสร็จสิ้นแล้ว หากไม่มีการค้างชำระเพิ่มเติม ประวัติการติดบูโรจะถูกลบออกจากระบบ และสามารถเริ่มสร้างเครดิตใหม่ที่ดีได้นั่นเอง
ผลเสียของการติดบูโร
- ขอสินเชื่อได้ยากขึ้น : ธนาคาร และสถาบันการเงินจะพิจารณาการปล่อยสินเชื่ออย่างเข้มงวดขึ้น
- อาจต้องวางเงินดาวน์สูงขึ้น : หากต้องการซื้อบ้าน หรือรถ อาจต้องวางเงินดาวน์ในอัตราที่สูงขึ้น
- ดอกเบี้ยสูงขึ้น : ผู้ที่มีประวัติติดบูโรอาจได้รับอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าปกติ
- เสียโอกาสทางการเงิน : อาจพลาดโอกาสในการลงทุน หรือทำธุรกิจที่ต้องใช้สินเชื่อ
- ถูกทวงหนี้จากเจ้าหนี้ : หากมีหนี้ค้างชำระ อาจถูกติดตามทวงหนี้จากบริษัทจัดเก็บหนี้
การติดบูโรไม่ได้หมายความว่าจะไม่สามารถขอสินเชื่อได้อีกต่อไป แต่ต้องใช้เวลา และความพยายามในการปรับปรุงประวัติทางการเงินของตนเอง ดังนั้นเมื่อรู้ตัวว่าติดบูโร ควรรีบชำระหนี้ที่คงค้าง ตรวจสอบเครดิตบูโรอย่างสม่ำเสมอ และรักษาประวัติการเงินให้ดี เพื่อให้สามารถกลับมาขอสินเชื่อได้ในอนาคต
สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่หมุนเงินไม่ทัน มีบิลฉุกเฉินต้องจ่าย ไม่อยากไปยืมใคร หรือกู้ยิมที่ไหนให้เสี่ยงเสียเครดิตอีกต่อไป https://go.finn-app.com/finnis0424 ก็เบิกเงินเดือนล่วงหน้าของตัวเองมาใช้จ่าย กับ FINN ได้ ไม่ต้องห่วงเรื่องกู้ยืมใคร ไม่ต้องสร้างหนี้สินเพิ่มเติม