ทำความรู้จัก สลากออมสิน อีกหนึ่งทางเลือกของคนชอบซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล

สลากออมสิน คืออะไร ? สลากออมสิน เหมือนหรือแตกต่างกับสลากกินแบ่งรัฐบาลอย่างไร ? มีความเสี่ยงสูงหรือไม่ แต่ละประเภทต่างกันอย่างไร ? สลาก ออมสินเหมาะกับใคร ?

สลากออมสิน คืออะไร ?
สลากออมสิน

FINN ชวนทุกคนทำความรู้จัก ‘สลากออมสิน’ อีกหนึ่งทางเลือกของการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ เหมาะสำหรับนักลงทุนมือใหม่ที่มีเงินเย็นในมือเป็นจำนวนมาก สามารถลงทุนในระยะยาวได้ แถมให้ความรู้สึกตื่นเต้น ลุ้นทุกงวดใกล้เคียงกับการซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลโดยที่ได้ดอกเบี้ยในอัตราที่แน่นอน เพื่อเก็บเป็นไอเดียในการลงทุนในอนาคตได้ สำหรับใครที่สนใจ สามารถอ่านข้อมูลน่ารู้เกี่ยวกับสลากออมสินได้ในบทความนี้เลย

สลากออมสิน คืออะไร ?

กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กบข. ให้ข้อมูลสลากออมสินว่า สลากออมสินเป็นวิธีการออมเงินที่ให้ผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ยพร้อมกับสิทธิ์ในการลุ้นรางวัลในแต่ละงวด โดยทั่วไปแล้ว สลากออมสินมีระยะเวลาการถือครอง 3 ปี ผู้ที่ซื้อสลากจะต้องถือไว้จนกว่าจะครบกำหนดเพื่อรับดอกเบี้ยตามที่กำหนด หากต้องการถอนก่อนเวลาจะได้รับดอกเบี้ยลดลงตามเงื่อนไขของสลาก

สลากออมสิน ต่างกับสลากกินแบ่งรัฐบาลอย่างไร ?
สลากออมสิน vs สลากกินแบ่งรัฐบาล

สลากออมสิน ต่างกับสลากกินแบ่งรัฐบาลอย่างไร ?

แน่นอนว่าเมื่อมีคำว่าสลากเหมือนกัน แถมยังมีการออกโดยรัฐบาลเช่นกันย่อมมีผู้ที่เกิดความสับสนว่าสลากออมสินนั้นเหมือนกับสลากกินแบ่งรัฐบาลหรือไม่ หากไม่เหมือนแล้วสลากออมสินมีความแตกต่างจากสลากกินแบ่ง รัฐบาลอย่างไร FINN มีคำตอบให้ โดยสลากออมสินจะมีข้อแตกต่างจากสลากกินแบ่งรัฐบาลในหลายแง่มุมเลยทีเดียว

ความแตกต่างด้านวัตถุประสงค์

  • สลากออมสิน : ออกแบบมาเพื่อส่งเสริมการออมเงิน เป็นอีกหนึ่งวิธีเก็บเงิน โดยผู้ซื้อจะได้รับดอกเบี้ยจากเงินที่ฝากไว้พร้อมกับมีสิทธิ์ลุ้นรางวัลในแต่ละงวด
  • สลากกินแบ่ง รัฐบาล : ออกเพื่อเป็นการเสี่ยงโชค โดยผู้ซื้อจะได้ลุ้นรางวัลตามหมายเลขที่ซื้อ ไม่มีการให้ดอกเบี้ย

ความแตกต่างด้านการลงทุนและผลตอบแทน

  • สลากออมสิน : เงินที่ซื้อจะถูกฝากไว้และได้รับดอกเบี้ยตามระยะเวลาที่กำหนด (โดยปกติ 3 ปี) พร้อมกับลุ้นรางวัลในแต่ละงวด
  • สลากกินแบ่ง รัฐบาล : ไม่มีดอกเบี้ย เพียงแต่มีรางวัลตามหมายเลขที่จับได้ รางวัลมีทั้งรางวัลใหญ่และรางวัลเล็ก

ความแตกต่างด้านระยะเวลาในการถือครอง

  • สลากออมสิน : ต้องถือครองจนกว่าจะครบกำหนด (มักจะเป็น 3 ปี) เพื่อรับดอกเบี้ยและลุ้นรางวัล
  • สลากกินแบ่ง รัฐบาล : ไม่จำเป็นต้องถือครองนาน เพราะการจับรางวัลจะเกิดขึ้นในแต่ละเดือน

ความแตกต่างด้านผลตอบแทนเมื่อถอนก่อนกำหนด

  • สลากออมสิน : หากถอนก่อนครบกำหนดจะได้รับดอกเบี้ยลดลงตามเงื่อนไขที่ระบุไว้
  • สลากกินแบ่ง รัฐบาล : ไม่สามารถถอนคืนได้และไม่มีดอกเบี้ย

ความแตกต่างด้านการซื้อและการคืนเงิน

  • สลากออมสิน : สามารถซื้อได้จากธนาคารออมสิน และจะได้รับคืนเมื่อครบกำหนด  หรือกรณีถอนก่อนกำหนดจะมีการหักดอกเบี้ย
  • สลากกินแบ่ง รัฐบาล : ซื้อได้จากตัวแทนจำหน่าย และไม่สามารถคืนเงินได้

กล่าวโดยสรุปก็คือสลาก ออมสินเน้นการออมเงิน และรับดอกเบี้ย พร้อมโอกาสลุ้นรางวัล ขณะที่สลากกินแบ่งรัฐบาลมุ่งเน้นการเสี่ยงโชคโดยไม่มีดอกเบี้ยนั่นเอง

สลากออมสิน มีความเสี่ยงไหม ?
สลากออมสิน เสี่ยงหรือไม่ ?

สลากออมสิน มีความเสี่ยงสูงหรือไม่ ?

การซื้อสลากปรเภทนี้นั้นถือเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำเมื่อเปรียบเทียบกับการลงทุนประเภทอื่น ๆ โดยสลากชนิดนี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อส่งเสริมการออมเงิน ผู้ซื้อจะได้รับดอกเบี้ยจากเงินที่ฝากไว้ พร้อมกับมีโอกาสลุ้นรางวัลในแต่ละงวด ทั้งนี้การลุ้นรางวัลนั้นจะไม่สามารถรับประกันผลลัพธ์ที่แน่นอนได้ อีกทั้งหากทำการถอนเงินออกก่อนกำหนด (โดยปกติแล้วจะกำหนดระยะเวลา 3 ปี) จะทำให้ได้รับดอกเบี้ยที่น้อยลง ดังนั้นแม้ว่าการลงทุนในสลากจะมีความปลอดภัยสูง และดอกเบี้ยที่ได้รับมีการรับประกัน แต่ผู้ลงทุนควรพิจารณาถึงเงื่อนไขการถอนเงินและการลุ้นรางวัลอย่างรอบคอบ เพื่อให้มั่นใจว่าการลงทุนในสลากเป็นไปตามวัตถุประสงค์ และความต้องการของตนเองอย่างสมบูรณ์นั่นเอง

ประเภทของสลากออมสิน

หลังจากที่ได้ทราบข้อมูลที่เกี่ยวกับสลากออมสินไปคร่าว ๆ แล้ว สิ่งถัดไปที่ควรทำความเข้าใจคือ ความแตกต่างของสลากออมสินประเภทต่าง ๆ ซึ่งจะสามารถแบ่งออกเป็น 6 ประเภท ดังต่อไปนี้

สลากออมสินพิเศษดิจิทัล 1 ปี

  • ราคา : หน่วยละ 20 บาท
  • คุณสมบัติผู้ฝาก : บุคคลธรรมดา อายุ 15 ปีขึ้นไปที่สมัครใช้บริการ Mobile Banking (MyMo) และมีบัญชีเงินฝากประเภทเผื่อเรียกเป็นบัญชีคู่โอน
  • ระยะเวลาสลาก : 1 ปี โดยมีสิทธิ์ลุ้นรางวัล 12 ครั้งตลอดช่วงระยะเวลา

สลากออมสินพิเศษดิจิทัล 2 ปี

  • ราคา : หน่วยละ 100 บาท
  • คุณสมบัติผู้ฝาก : บุคคลธรรมดา อายุ 15 ปีขึ้นไปที่สมัครใช้บริการ Mobile Banking (MyMo) และมีบัญชีเงินฝากประเภทเผื่อเรียกเป็นบัญชีคู่โอน
  • ระยะเวลาสลาก : 2 ปี โดยมีสิทธิ์ลุ้นรางวัล 24 ครั้งตลอดช่วงระยะเวลา

สลากออมสินพิเศษดิจิทัล 3 ปี

  • ราคา : หน่วยละ 50 บาท
  • คุณสมบัติผู้ฝาก : บุคคลธรรมดา อายุ 15 ปีขึ้นไปที่สมัครใช้บริการ Mobile Banking (MyMo) และมีบัญชีเงินฝากประเภทเผื่อเรียกเป็นบัญชีคู่โอน
  • ระยะเวลาสลาก : 3 ปี โดยมีสิทธิ์ลุ้นรางวัล 36 ครั้งตลอดช่วงระยะเวลา
สลากออมสิน เหมาะกับใคร ?
ประเภทของสลากออมสิน

สลากออมสินพิเศษ 2 ปี

  • ราคา : หน่วยละ 100 บาท
  • คุณสมบัติผู้ฝาก : บุคคลธรรมดา อายุ 7 ปีขึ้นไป และนิติบุคคล
  • ระยะเวลาสลาก : 2 ปี โดยมีสิทธิ์ลุ้นรางวัล 24 ครั้งตลอดช่วงระยะเวลา

สลากออมสินพิเศษ 3 ปี

  • ราคา : หน่วยละ 50 บาท
  • คุณสมบัติผู้ฝาก : บุคคลธรรมดา อายุ 7 ปีขึ้นไป และนิติบุคคล
  • ระยะเวลาสลาก : 3 ปี โดยมีสิทธิ์ลุ้นรางวัล 36 ครั้งตลอดช่วงระยะเวลา

สลากออมสินพิเศษ 5 ปี

  • ราคา : หน่วยละ 100 บาท
  • คุณสมบัติผู้ฝาก : บุคคลธรรมดา อายุ 7 ปีขึ้นไป และนิติบุคคลทุกประเภท
  • ระยะเวลาสลาก : 5 ปี โดยมีสิทธิ์ลุ้นรางวัล 60 ครั้งตลอดช่วงระยะเวลา

สลากออมสิน เหมาะกับใคร ?

  • ผู้ที่ต้องการออมเงินในระยะยาว
  • ผู้ที่ต้องการลงทุนความเสี่ยงต่ำ
  • ผู้ที่มีเงินเย็นสำหรับการลงทุน
  • ผู้ที่ชื่นชอบการลุ้นรางวัล
  • ผู้ที่สามารถลงทุนในระยะยาวโดยไม่จำเป็นต้องถอนเงินออกมาใช้จ่าย

สำหรับใครที่ตัดสินใจลงทุนไปกับการซื้อสลากออมสินแต่เกิดเหตุไม่คาดฝันทำให้ในเดือนนั้น ๆ เงินหมุนไม่ทัน เงินเดือนไม่พอใช้ ไม่อยากถอนเงินที่ซื้อสลากออมสินออกมาใช้ ก็สามารถใช้บริการเบิกเงินเดือนล่วงหน้า กับ FINN ได้ https://go.finn-app.com/finnis0424 สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้เลย