ผ่อนไม่ไหว! ไม่มีรถคืนไฟแนนซ์ต้องเจอกับอะไร ติดคุกหรือไม่ ?
ไฟแนนซ์ คืออะไร ? ผ่อนรถต่อไม่ไหว ไม่มีรถคืนให้กับไฟแนนซ์เมื่อผ่อนไม่ไหวจะต้องติดคุกหรือไม่ มีบทลงโทษอะไร ไฟแนนซ์จะสามารถยึดรถของเราได้ในกรณีไหนบ้าง ?
ในยุคที่ค่าครองชีพพุ่งสูงแต่รายได้ไม่ขยับตาม หลายคนที่ผ่อนรถอยู่กับบริษัทไฟแนนซ์อาจเริ่มรู้สึกว่า ตนเองไม่สามารถที่จะผ่อนรถได้อีกต่อไป เริ่มมีการผ่อนรถไม่ตรงงวด จนรู้สึกว่าผ่อนต่อไม่ไหว หรือแม้แต่กรณีที่รถหาย หรือแม้กระทั่งมีความจำเป็นใด ๆ ที่ทำให้รถไม่อยู่กับตัวเองแล้วทั้งที่ยังผ่อนไม่หมด และมีทีท่าว่าจะผ่อนไม่ไหว ย่อมเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้ที่ประสบปัญหานี้เกิดความกังวลใจ ว่าหากผ่อนไม่ไหว ไม่มีรถคืนไฟแนนซ์ติดคุกไหม หรือต้องเจอกับอะไร วันนี้ FINN มีคำตอบให้กับทุกคน
ไฟแนนซ์ คืออะไร ?
ไฟแนนซ์ คือ บริการสินเชื่อทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายรถยนต์ ในกรณีที่ผู้ซื้อไม่มีเงินก้อนสำหรับชำระราคารถทั้งหมดในคราวเดียว การใช้บริการไฟแนนซ์จะช่วยให้สามารถผ่อนชำระเป็นงวด ๆ ได้ตามเงื่อนไขที่ตกลงกับสถาบันการเงิน หรือบริษัทไฟแนนซ์ที่ให้บริการสินเชื่อนั้น ๆ
ในทางปฏิบัติเมื่อทำสัญญาไฟแนนซ์ บริษัทไฟแนนซ์จะเป็นผู้จ่ายเงินให้กับผู้ขายรถก่อน ส่วนผู้ซื้อจะต้องผ่อนชำระคืนตามระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งอาจอยู่ระหว่าง 12 - 84 งวด แล้วแต่เงื่อนไข และข้อตกลง เมื่อผ่อนครบทั้งหมด รถจึงจะเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ซื้ออย่างสมบูรณ์
อย่างไรก็ตามในระหว่างที่ยังผ่อนไม่ครบ ไฟแนนซ์จะยังคงถือกรรมสิทธิ์ในตัวรถอยู่ นั่นหมายความว่าหากผู้ซื้อผิดสัญญา เช่น ผ่อนไม่ครบงวด ไม่ชำระค่างวด หรือไม่สามารถคืนรถได้ตามเงื่อนไข บริษัทไฟแนนซ์มีสิทธิ์ดำเนินการตามกฎหมายเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของตนเอง
ไม่มีรถคืนไฟแนนซ์ ต้องติดคุกหรือไม่ ?
เมื่อเกิดปัญหาในการผ่อนรถกับบริษัทไฟแนนซ์ ไม่ว่าจะเป็นกรณีรถหาย ถูกยึด หรือขายต่อไปโดยไม่ได้รับอนุญาต คำถามที่หลายคนกังวลใจมากที่สุดคือ “ถ้าไม่มีรถคืนไฟแนนซ์ จะต้องติดคุกหรือไม่?” ซึ่งคำตอบขึ้นอยู่กับรายละเอียดของแต่ละกรณีเป็นสำคัญ
โดยทั่วไปการผิดสัญญาไฟแนนซ์ เช่น การไม่ชำระค่างวด หรือไม่สามารถส่งคืนรถได้ตามเงื่อนไข ถือเป็นเรื่องของ “คดีแพ่ง” ไม่ใช่ “คดีอาญา” ดังนั้นในกรณีที่ผู้ผ่อนรถไม่มีเจตนาทุจริต และพร้อมเจรจาไกล่เกลี่ยกับไฟแนนซ์ ก็จะไม่ถึงขั้นต้องติดคุก
อย่างไรก็ตามหากพฤติกรรมของผู้กู้เข้าข่ายเจตนาฉ้อโกง เช่น แอบขายรถ ขายทะเบียน ซ่อนรถ ไม่ยอมคืน หรือใช้เอกสารเท็จในการขอสินเชื่อไฟแนนซ์ กรณีเหล่านี้อาจเข้าข่าย “ฉ้อโกงเจ้าหนี้” ซึ่งเป็นความผิดทางอาญา และมีโอกาสถูกดำเนินคดีจนถึงขั้นจำคุกได้
ดังนั้นหากไม่สามารถผ่อนจ่ายแนนซ์ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด ควรรีบติดต่อบริษัทไฟแนนซ์เพื่อหาทางออกที่เหมาะสม เช่น ขอปรับโครงสร้างหนี้ ขอผ่อนผัน หรือเสนอคืนรถโดยสมัครใจ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาทางกฎหมายที่จะตามมาในอนาคตนั่นเอง
ไม่มีรถคืนไฟแนนซ์ จะต้องเจอกับอะไรบ้าง ?
เมื่อผ่อนรถไม่ไหว และไม่มีรถคืนให้บริษัทไฟแนนซ์ ผู้กู้ต้องเตรียมตัวรับมือกับผลกระทบหลายด้านที่อาจเกิดขึ้นตามมา ทั้งในแง่ของกฎหมาย และเรื่องการเงิน โดยเฉพาะหากไม่ได้ติดต่อ หรือเจรจากับไฟแนนซ์อย่างเหมาะสม อาจกลายเป็นปัญหาที่บานปลายได้ในระยะยาว โดยสิ่งที่มักจะเกิดขึ้นเมื่อไม่มีรถคืนไฟแนนซ์ ได้แก่
- ถูกทวงหนี้ และคิดดอกเบี้ยค้างชำระ : หากขาดการผ่อนชำระ บริษัทไฟแนนซ์จะเริ่มขั้นตอนการติดตามทวงหนี้ และมีการคิดดอกเบี้ย เบี้ยปรับ และค่าติดตามหนี้เพิ่มเติม ซึ่งทำให้ยอดหนี้เพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ
- ถูกฟ้องร้องทางแพ่ง : กรณีไม่มีรถคืน และไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามสัญญา ไฟแนนซ์มีสิทธิ์ยื่นฟ้องต่อศาลเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายทั้งหมดที่เกิดจากการผิดสัญญา เช่น ค่างวดที่ค้างชำระ ดอกเบี้ย และค่าปรับต่าง ๆ
- ถูกดำเนินคดีอาญา (ในบางกรณี) : หากมีพฤติกรรมที่เข้าข่ายฉ้อโกง เช่น แอบขายรถโดยไม่แจ้งไฟแนนซ์ หรือจงใจปกปิดที่อยู่รถ อาจทำให้ถูกแจ้งความดำเนินคดีอาญาได้ ซึ่งกรณีนี้มีโทษทั้งจำคุก และปรับ
- เสียประวัติเครดิต คะแนนเครดิตไม่ดี และถูกยึดทรัพย์ : ผู้กู้ที่ผิดนัดชำระหนี้กับไฟแนนซ์จะมีประวัติเสียในเครดิตบูโร ทำให้ขอสินเชื่ออื่น ๆ ได้ยากในอนาคต และหากศาลมีคำพิพากษาให้ชำระหนี้ อาจมีการยึดทรัพย์สินเพื่อนำไปชำระหนี้ตามคำสั่งศาล
กล่าวได้ว่าการไม่มีรถคืนไฟแนนซ์ไม่ใช่เรื่องเล็ก การนิ่งเฉยจะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดข้อพิพาทที่ร้ายแรงขึ้น ควรรีบติดต่อบริษัทไฟแนนซ์เพื่อหาทางออกที่เหมาะสม และลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
ไฟแนนซ์จะยึดรถในกรณีไหนบ้าง ?
- ค้างค่างวดติดต่อกันเกิน 3 งวด : ถือเป็นกรณีที่พบมากที่สุด หากผู้กู้ไม่ชำระค่างวดให้ไฟแนนซ์ติดต่อกันหลายงวด โดยเฉพาะเมื่อเกิน 3 งวดขึ้นไป บริษัทไฟแนนซ์มีสิทธิ์เริ่มขั้นตอนการแจ้งเตือน และหากยังไม่มีการชำระหนี้ ก็สามารถดำเนินการยึดรถได้ตามกฎหมาย
- ผิดนัดการชำระหนี้โดยไม่แจ้งสาเหตุ : ในกรณีที่ผู้กู้หยุดผ่อนรถโดยไม่แจ้งเหตุผล หรือไม่ติดต่อกลับไปยังไฟแนนซ์ ไฟแนนซ์อาจถือว่าเป็นการผิดสัญญา และมีสิทธิ์ในการติดตามรถเพื่อยึดคืน
- ย้ายรถไปอยู่ในที่ที่ไม่สามารถตรวจสอบได้ : หากไฟแนนซ์ไม่สามารถติดต่อผู้กู้ หรือไม่สามารถตามหารถได้ เช่น ผู้กู้ย้ายที่อยู่โดยไม่แจ้ง หรือซ่อนรถไว้ในที่ลับ อาจถูกมองว่าเจตนาไม่คืนรถ และนำไปสู่การยึดรถโดยทันที
- แอบโอนขายรถโดยไม่ได้รับอนุญาต : การนำรถที่ยังติดไฟแนนซ์ไปขายต่อ หรือโอนสิทธิ์ให้ผู้อื่นโดยไม่แจ้งบริษัทไฟแนนซ์ ถือเป็นการละเมิดสัญญาอย่างร้ายแรง และไฟแนนซ์มีสิทธิ์ดำเนินการทั้งการยึดรถ และดำเนินคดีตามกฎหมาย
จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าการไม่มีเงินชำระค่างวดให้แก่ไฟแนนซ์ รวมถึงการไม่มีรถคืนไฟแนนซ์เมื่อส่งค่างวดรถต่อไม่ไหวถือเป็นเรื่องที่ร้ายแรง ดังนั้นจึงควรให้ความสำคัญแก่การวางแผนการชำระเงินในแต่ละงวดให้ดี
ทั้งนี้หากเดือนไหนมีบิลฉุกเฉินทำให้การหมุนเงินติดขัดไม่พอจ่าย ก็สามารถเบิกเงินเดือนล่วงหน้าของตัวเองมาจ่ายค่างวดรถ กับ FINN ก่อนได้ https://go.finn-app.com/finnis0424 จ่ายค่างวดรถได้อย่างสบายใจ ไม่เสียเครดิตที่จ่ายหนี้ไม่ตรงเวลา